(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงต่อ ไร้ปัจจัยใหม่หนุน-รับ sentiment ลบในปท.Force sell กดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 10, 2025 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่าแนวโน้ม ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีปรับตัวลงต่อ บรรยากาศการลงทุนโดยรวมยังดูไม่สดใส โดยเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการ จึงขาดปัจจัยชี้นำตลาด ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ที่เปิดมา อาทิ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ดัชนียังอยู่ในภาวะขาลง

ทั้งนี้มองว่า Sentiment ในประเทศยังไม่ค่อยดี ปัญหาหลักจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนในการลงทุนตลาดหุ้นไทย จากประเด็นการถูก Force Sell ที่เกิดจากการนำหุ้นไปจำนำของผู้บริหาร ซึ่งประเด็นดังกล่าวหากตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการแก้ไขภายในสิ้นเดือนนี้มองว่าปัญหาจะค่อย ๆ คลี่คลาย อย่างไรก็ตามช่วงที่ผ่านมา SET ดีดแรงจากนักลงทุนต่างชาติที่เห็นจังหวะเก็งกำไรได้ แต่เมื่อมีประเด็นที่กระทบความเชื่อมั่นทำให้ขายออกมา พร้อมกับถือสถานะ Short Future ด้วย

นอกจากนี้ยังถูกกดดันจากความกังวลจากกระแสข่าวนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ มีแผนประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจแห่งชาติ เพื่อใช้อำนาจในการใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีนำเข้า รวมทั้งการรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อเดือนธ.ค. ระบุว่าเฟดน่าจะลดดอกเบี้ยได้ไม่เกิน 2 ครั้งในปีนี้

พร้อมทั้งให้กรอบแนวต้าน 1,375 จุด และแนวรับ 1,350 จุด แนวรับถัดไป 1,330 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 9 ม.ค. เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,550.25 จุด ลดลง 54.84 จุด หรือ -0.14% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 19,328.07 จุด เพิ่มขึ้น 87.18 จุด หรือ +0.45% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,211.71 จุด เพิ่มขึ้น 0.32 จุด หรือ +0.01%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 ม.ค.) ที่ 1,362.97 ลดลง 24.75 (-1.78%) มูลค่าซื้อขายราว 46,901.72 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (9 ม.ค.) 2,289.90 ล้านบาท
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.(9 ม.ค.) เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 73.92ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 ม.ค.) อยู่ที่ 4.69 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.57/58 แข็งค่าเล็กน้อย ตลาดรอตัวเลขจ้างงานฯสหรัฐคืนนี้ ให้กรอบ 34.45-34.75
  • "คลัง" ลุยแซนด์บ็อกซ์ภูเก็ต หนุนใช้คริปโทฯ ใช้จ่ายสินค้าในประเทศ เริ่มทดลองใช้ภายในปี 2568 เร่งเคลียร์ ธปท.ฝ่าด่านหิน การใช้คริปโทฯแลกเปลี่ยนขัด พ.ร.บ.การเงิน เปิดข้อกังวลแบงก์ชาติ4 ประเด็นนำเงินดิจิทัลมาใช้แลกเปลี่ยนสินค้า
  • "หุ้นไทย" วานนี้ร่วงแรงปิดตลาด 24 จุด อยู่ที่ 1,362.97 จุด ดิ่งหนักตามภูมิภาค "บล.ยูโอบี เคย์เฮียน" ชี้ตลาดกังวล "ทรัมป์" มีแผนประกาศภาวะ "ฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระดับชาติ" เพื่อตั้งกำแพงภาษีนำเข้า ห่วงปมขาดความเชื่อมั่นผู้บริหารนำหุ้นวางมาร์จิน บล.ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนลคาดแรงเทขายหุ้นใหญ่ผลกระทบ GMT "ไทยบีเอ็มเอ" ชี้ปีก่อนพบบริษัทถูกดาวน์เกรดหุ้นกู้ 46 บริษัท เหตุธุรกิจแย่
  • "ไทยบีเอ็มเอ" คาดแนวโน้มปี 68 ยอดหุ้นกู้ใหม่ 8.5- 9 แสนล้านบาทใกล้เคียงปีก่อน จับตา "หุ้นกู้ไฮยีลด์" ยอดออกวูบ 50% เหตุนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นเศรษฐกิจซบเซา ตลาดอยู่ในโหมดซึมลง พบบริษัทถูกดาวน์เกรดหุ้นกู้ลดลง เพิ่มเป็น 46 บริษัทในปี 67 หลังภาพธุรกิจแย่ลง ยังไร้สัญญาณหุ้นกู้เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น
  • "สรรพากร" ตั้งเป้ารีดภาษี 2.37 ล้านล้านบาท ขู่เอาจริง! กลุ่มขายออนไลน์อินฟลูฯ จะใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาตรวจจับเลี่ยงภาษีโดนโทษหนัก ทั้งปรับ ทั้งคุก พร้อมทำแผนรับมือยื่นภาษีนิติบุคคล รายได้วูบกระทบจัดเก็บรายได้เหตุแพ้พิษเศรษฐกิจ พร้อมสั่งให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำแผน และคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว
  • ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธาน ได้รับทราบความคืบหน้าของการดำเนินการเพื่อแก้ไขสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และการหารือร่วมกันเพิ่มเติมระหว่าง สกพอ. และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อยืนยันว่าการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนโครงการฯ โดยยังคงเป็นไปตามหลักการเดิมของการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ในโครงการนี้
  • "กรมธุรกิจพลังงาน" รายงานตัวเลขยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 11 เดือนของปี 67 เพิ่มขึ้น 2% สอดรับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย จากภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยกระตุ้นกลุ่มดีเซลเพิ่ม 2.4% ขณะที่น้ำมันอากาศยานโต 18.4%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KTB (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 23.50 บาท เราคาดว่า KTB จะได้รับประโยชน์จากรอบการลงทุนใหม่ในปีหน้าจากทั้งภาครัฐและเอกชนขณะเดียวกัน คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารมีความน่ากังวลน้อยกว่าธนาคารขนาดใหญ่อื่น ๆ โดยคาดว่าอัตราส่วน NPL จะลดลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับต้นทุนด้านสินเชื่อที่ปรับลดลง เราคงประมาณการสำหรับปี 2567-2569 +3.2% CAGR ขณะที่ Valuation ยังค่อนข้างถูก เทรด P/BV อยู่ที่ 0.7 เท่า นอกจากนี้การคงดอกเบี้ยของกนง.และโมเมนตัมจาก FED ที่ลดดอกเบี้ยช้าลง คาดช่วยจำกัด Downside ของกลุ่มธนาคาร

SKY (เมย์แบงก์) "ซื้อ" เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 30.10 บาท ได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนด้าน IT ของภาครัฐฯ คาดว่ากำไรหลักในปี 68 จะเติบโต 56% YoY จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสารสนามบินและการลงทุนของภาครัฐ ราคาเป้าหมายอิงวิธี SoTP อยู่ที่ 30.10 บาท แบ่งเป็น 1) 23.60 บาทจากบริการที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน และ 2) 6.50 บาท จากธุรกิจ SI (System Integration) ทั้งนี้ เพื่อตอบข้อกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มรายได้ของ SKY เราขอชี้แจงว่า งบประมาณการลงทุนทางด้าน IT ของ 5 หน่วยงานภาครัฐ (ประกอบด้วยกระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) กรมท่าอากาศยาน การรถไฟแห่งประเทศไทย และกรมศุลกากร) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 20% YoY ในปีงบประมาณ 68 โดยปัจจัยบวกที่จะหนุนราคาหุ้น (Re-rating Catalyst) อาจมาจากการชนะโครงการในช่วงไตรมาส 1-2 ของปี 68

  • TRUE (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 12.10 บาทเรามีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มสื่อสารซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความมั่นคงทั้งด้านผลประกอบการและการเคลื่อนไหวของราคา โดยการแต่งตั้งคุณซิกเว่เบรกเก้ อดีต CEO ของ Telenor Group เป็นประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและดิจิทัลของเครือเจริญโภคภัณฑ์ คาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารและการควบคุมค่าใช้จ่ายของ TRUE นอกจากนี้คาดว่า TRUE จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ที่ดี โดย EBITDA จะเติบโตทั้งเทียบไตรมาสก่อนและปีก่อน จากรายได้ต่อผู้ใช้บริการ (APRU) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังการแข่งขันด้านราคาลดลง ประกอบกับการลดต้นทุนและประโยชน์จากการควบรวมกิจการจะส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานหลักปรับตัวดีขึ้นและต่อเนื่องไปในปี 2568โดยราคาหุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมาถือเป็นโอกาสในการทยอยสะสมกรอบ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ