บล.กรุงศรี ยังคงมุมมองเชิงบวกกลุ่ม ICT โดยกำไรสุทธิและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เราคงประมาณการกำไรปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 89%yoy และเติบโต 10% yoy ในปี 2568 ด้วย Upside จากการประมูลคลื่นความถี่ในปี 2568 เนื่องจากการแข่งขันที่มีน้อยลง คงคำแนะนำ "ซื้อ" ADVANC และ TRUE (Top pick ราคาเป้าหมาย 14.7 บาท)
จากที่มีกระแสข่าวคาดว่าจะมีการเสนอแผนการน้ำคลื่นความถี่ไปใช้ในช่วง 5 ปีข้างหน้า และรูปแบบการประมูลคลื่นความถี่ครั้งต่อไป เข้าที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในวันอังคารที่ 14 มกราคมนี้ โดยคลื่นความถี่ที่คาดว่าจะนำมาประมูล ได้แก่ 850 MHz, 1500 MHz, 1800 MHz, 2100 MHz และ 2300 MHz. ราคาเริ่มต้นอาจอยู่ที่ประมาณ 16,000 ล้านบาท สำหรับคลื่นความถี่ 2100 MHz ขนาด 30 MHz และ 30,000 ล้านบาท สำหรับคลื่นความถี่ 2300 MHz ขนาด 60 MHz. คาดว่า NT อาจจะไม่เข้าร่วมประมูลในครั้งนี้
เราคาดว่าการประมูลคลื่นความถี่ใหม่ จะเพิ่มกำไรของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส [ADVANC] และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น [TRUE]
หากเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม และการประมูลจะจัดขึ้นในเดือนเมษายน-พฤษภาคม ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานของเราที่คาดว่าการประมูลจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 สมมติฐานดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นฐานของคลื่นความถี่บางส่วน (850 MHz, 2100 MHz และ 2300 MHz) ที่ NT ถือครองอยู่ในปัจจุบัน จะหมดอายุในเดือนสิงหาคมปีนี้ ตามกฎระเบียบ NT จำเป็นต้องคืนคลื่นความถี่ดังกล่าวให้กับ กสทช. และ กสทช. จะดำเนินการนำคลื่นความถี่ดังกล่าวกลับมาบริหารจัดการและประมูลต่อไป.
ในมุมมองของเรา การประมูลคลื่นความถี่ 850 MHz, 2100 MHz และ 2300 MHz จะไม่ได้ทำให้เกิดการลงทุนใหม่ แต่จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของผู้ให้บริการ และส่งผลให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นในปี 2568 เราคาดว่าจะมีการประหยัดต้นทุนจากปัจจัยต่อไปนี้ (i) ผู้ให้บริการแต่ละรายจะประมูลคลื่นความถี่ที่ตนเองต้องการเท่านั้น และ (ii) การแข่งขันจะมีน้อยลง และราคาประมูลสุดท้ายจะใกล้เคียงกับราคาเริ่มต้น
จากราคาเริ่มต้นของคลื่นความถี่ 2100 MHz และ 2300 MHz ตามที่รายงานข่าวระบุ คาดว่าคลื่นความถี่ดังกล่าวจะส่งผลให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น หาก ADVANC ได้รับการประมูลคลื่นความถี่ 2100 MHz ในราคา 16,000 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการตัดจำหน่ายต่อปีจะอยู่ที่ 1,060 ล้านบาท ต่ำกว่าค่าเช่าที่ชำระให้กับ NT ในปัจจุบันที่ 4,000 ล้านบาท ถือเป็น upside risk ต่อประมาณการกำไรสุทธิในปี 2568 ของ ADVANC ที่ 8%
สำหรับ TRUE ค่าใช้จ่ายในการตัดจำหน่ายต่อปีของคลื่นความถี่ 2600 MHz จะอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท ต่ำกว่าค่าเช่าที่ ชำระให้กับ NT ในปัจจุบันที่ 6,000 ล้านบาท ถือเป็น upside risk ต่อประมาณการกำไรสุทธิในปี 2568 ที่ 33%
เราได้ดำเนินการวิเคราะห์ (Sensitivity Analysis) เกี่ยวกับระดับราคาประมูลที่จะทำให้กำไรต่อหุ้นของ ADVANC และ TRUE ไม่เพิ่มขึ้น ผลการวิเคราะห์พบว่า หากราคาประมูลสุดท้ายของ TRUE สูงถึง 90,000 ล้านบาท (เท่าตัวของราคาเริ่มต้น) และ 45,000 ล้านบาท
สำหรับ ADVANC (เท่าตัวของราคาเริ่มต้น) กำไรต่อหุ้นอาจไม่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เรามองว่ามีความเป็นไปได้น้อยมาก
เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ ADVANC (ราคาเป้าหมาย 305 บาท) และ TRUE (ราคาเป้าหมาย 14.7 บาท) โดยมีสมมติฐานหลักมาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของกำไรสุทธิและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานในอีก 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิในปีหน้า โดยมี upside risk จากการประมูลคลื่นความถี่.
ปิดเที่ยง ราคา ADVANC อยู่ที่ 282 บาท ลดลง 1.00 บาท (-0.35%) และ TRUE ปิดที่ 11.10 บาท ลดลง 0.10 บาท (-0.89%)