FTREIT ปักเป้าปี 68 อัพรายได้แตะ 4 พันลบ.จัดงบลงทุนกว่าพันล้านขยายพื้นที่เช่ารอรับต่างชาติย้ายฐาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 15, 2025 16:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภูมภาร อรุณธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด [FIRM] ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ [FTREIT] กล่าว่า ภาพทิศทางธุรกิจในปี 68 คาดว่ายังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี และยังเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภาพรวมรายได้งวดปี 67/68 (ต.ค.67-ก.ย.68) จะเพิ่มขึ้นแตะ 4 พันล้านบาท จากงวดปี 66/67 (ต.ค. 66-ก.ย.67) ที่มีรายได้ 3.96 พันล้านบาท

ปัจจัยสนับสนุนมาจากผู้ประกอบการต่างๆ ยังเช่าคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าของ FTREIT อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ บริษัทปรับอัตราค่าเช่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นราว 1.5% ต่อปี ช่วยสนับสนุนให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนอัตราการเช่าคาดว่าจะสูงกว่า 85% โดยมองเห็นปัจจัยหนุนจากการย้ายฐานการผลิตจากจีนเข้ามาในไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย เป็นจำนวนมาก ซึ่งยังมีลูกค้าใน Waiting list รอเช่าพื้นที่เพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน นโยบายของรัฐบาลจะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติมากขึ้น ยังเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญต่อธุรกิจในกลุ่มการให้บริการพื้นที่เช่าอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ และส่งผลดีต่อการดำเนินงานของ FTREIT อย่างไรก็ตามคงต้องรอติดตามการแถลงนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค. 68 ว่าจะมีนโยบายเกี่ยวกับมาตรการการกีดกันทางการค้าอย่างไร

นอกจากนี้ FTREIT ยังคงวางงบลงทุนไว้รองรับการซื้อทรัพย์สินพื้นที่เช่าคลังสินค้าให้เช่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอ โดยลงทุนในทรัพย์สินในพื้นที่ยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่สำคัญ ครอบคลุมทรัพย์สินจากสปอนเซอร์ กลุ่มบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย และนอกกลุ่ม

ปัจจุบัน FTREIT ทรัพย์สินประเภทอาคารโรงงานและคลังสินค้ารวม 710 ยูนิต แบ่งเป็นโรงงาน 369 ยูนิต คลังสินค้า 341 ยูนิต มีพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการ (NLA) ประมาณ 2.3 ล้านตารางเมตร ทำเลที่ตั้งของทรัพย์สินของกองทรัสต์อยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ ปราจีนบุรี และพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และมีมูลค่าสินทรัพย์รวม 5.05 หมื่นล้านบาท ซึ่งการเข้าซื้อสินทรัพย์ใหม่จะเป็นหนึ่งปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานของ FTREIT ในปีงวดปี 67/68

นอกจากนี้ FTREIT ยังมีกลยุทธ์ในการเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ สานความต่อเนื่องจากความสำเร็จของการดำเนินงานโครงการสร้างขึ้นใหม่ (Greenfield) และโครงการพัฒนาอาคารและสร้างส่วนต่อขยายอาคารจากพื้นที่เดิม (Brownfield) ซึ่งส่งผลให้ FTREIT สามารถทำสัญญาเช่าระยะยาวกับผู้เช่าได้ 10-12 ปี รวมทั้งมีการพัฒนาแพื้นที่เช่าคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าให้ได้มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ เพื่อมุ่งไปสู่ Net Zero ในปี 2050 และสร้างจุดแข็งและความน่าสนใจดึงดูดผู้เช่าที่ต้องมีการรับรองมาตรฐานด้านสิ่งแวดลิอมในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการจากยุโรป

สำหรับจุดเด่นของกองทรัสต์ FTREIT คือ เป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมที่มีขนาดพื้นที่ให้เช่าสุทธิใหญ่ที่สุด และมีพื้นที่ในลักษณะการถือครองกรรมสิทธิ์ (Freehold) มากที่สุดของไทย ด้วยสัดส่วน 72% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด หรือราว 1.63 ล้านตารางเมตร โดยมีการรักษาสัดส่วนทรัพย์สินประเภทอาคารโรงงานและคลังสินค้าได้อย่างสมดุล (คลังสินค้า 60%: โรงงาน 40%) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงหากเกิดความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจกระทบความต้องการในทรัพย์สินประเภทใดประเภทหนึ่ง และผู้เช่าหลักส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโลจิสติกส์ สัดส่วน 32% รองลงมาเป็นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ สัดส่วน 24% และยานยนต์ สัดส่วน 19% โดยมีลูกค้าสัญชาติญี่ปุ่นมากที่สุด สัดส่วน 36% ตามด้วยกลุ่มเอเชีย สัดส่วน 23% และยุโรป สัดส่วน 21%

ขณะเดียวกันกองทรัสต์ FTREIT ยังคงให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดี (Dividend Yield) ที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งให้ตอบแทนจากเงินปันผลราว 7.60% เมื่อเทียบกับราคาหน่วยกองทรัสต์ที่ 10 บาท/หุ้น และคาดว่าการที่ผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้กองทรัสต์ FTREIT จะให้ตอบแทนจากเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยได้เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ FTREIT ยังมีแผนในการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดอายุราว 1-2 พันล้านบาท ในงวดปี 67/68


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ