สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์และร่างประกาศเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อผู้ลงทุนเป็นการทั่วไป (Second Public Offering: SPO) และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568
ก.ล.ต. ได้ทบทวนหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน SPO และการเข้าจดทะเบียนใน mai และ SET ของบริษัทจดทะเบียนใน LiVEx เพื่อให้มีความเหมาะสมกับกิจการขนาดกลางและเล็ก และอำนวยความสะดวกให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้นในการดำเนินธุรกิจ โดยยังคงหลักการคุ้มครองผู้ลงทุนในระดับที่เหมาะสม รวมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์เรื่องการเข้าจดทะเบียนใน mai และ SET ของบริษัทจดทะเบียนใน LiVEx โดยได้เปิดรับความฟังความคิดเห็นและผู้ร่วมแสดงความเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว
ก.ล.ต. จึงออกประกาศ* เกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน SPO และการเข้าจดทะเบียนใน mai และ SET ของบริษัทจดทะเบียนใน LiVEx ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
(1) ปรับปรุงระยะเวลาของกระบวนการการเสนอขายหุ้น SPO ที่ออกโดยบริษัทจดทะเบียนใน LiVEx ให้สั้นลงโดยกำหนดระยะเวลา public opinion ซึ่งเป็นช่วงที่เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถสอบถามมายังบริษัทได้โดยตรง ให้เหลือ 7 วัน จากเดิม 30 วัน และกำหนดระยะเวลาการมีผลใช้บังคับของแบบ filing (cooling-off period) ให้เหลือ 3 วัน จากเดิม 14 วัน
(2) กำหนดให้การเข้าจดทะเบียนใน mai และ SET ของบริษัทจดทะเบียนใน LiVEx ต้องยื่นขออนุญาตและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และจัดสรรหลักทรัพย์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การจองจัดสรร (รวมทั้งหลักเกณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้อง) เช่นเดียวกับกรณีบริษัทมหาชนจำกัดทั่วไปที่ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO และกำหนดให้เปิดเผยข้อมูลตามรายการขั้นต่ำและข้อมูลการจัดสรรตราสารทุนให้แก่บุคคลที่มีความสัมพันธ์ โดยเปิดเผยในหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้น เช่นเดียวกับบริษัทจดทะเบียนใน mai และ SET ด้วย
ทั้งนี้ การออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าว ได้ลงราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 เป็นต้นไป