น.ส.ลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) เปิดแถลงข่าวด่วนในช่วงบ่ายวันนี้หลังจากราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักไปติดฟลอร์ 28.25 บาท/หุ้นในช่วงเช้าท่ามกลางกระแสข่าวลือด้านลบและการทำรายการบิ๊กล็อต 11,366,900 หุ้น ที่ราคา 37.00 บาท/หุ้น มูลค่า 420.57 ล้านบาท ต่ำกว่าราคาในกระดานขณะนั้น ทำให้คาดการณ์กันว่าอาจถูก Force Sell จึงเกิดแรงขายอย่าง Panic ตามมาทันที
น.ส.ลภัสรดา กล่าวว่า รายการขายหุ้นบิ๊กล็อตเป็นการทำรายการของผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 คือ IN GLORY INVESTMENTS LIMITED ซึ่งมีนายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล (หมอเสธ.) ถือหุ้นทั้ง 100% โดยขายให้กับกองทุนต่างประเทศจากยุโรปและสหรัฐจำนวน 4 ราย (ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้) เพื่อร่วมลงทุนในระยะยาว ภายใต้เงื่อนไขห้ามขายออกระหว่าง 6-12 เดือนจากนี้ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มการถือหุ้นของนักลงทุนสถาบัน และเพิ่มฟรีโฟลตให้แก่หุ้นของบริษัท ไม่ใช่เพราะหุ้นถูก Force Sell
นายแพทย์ระวีวัฒน์ ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 มีเป้าหมายจะขายหุ้นให้กับกองทุนไม่เกิน 5% เท่านั้น รายการที่เกิดขึ้นเช้านี้ถือว่าไม่เกินกว่าเป้าหมาย และจะไม่มีการทำรายการเพิ่มเติมอีก ซึ่งขณะนี่นายแพทย์ระวีวัฒน์ ยังถือหุ้นทั้งในนามส่วนตัวและผ่าน In Glory ราว 60% โดยไม่มีแผนที่จะขายหุ้นออกมาอีก
"เพราะอะไรที่ทำให้เราเลือกขาย Big Lot กับกองทุนบางเจ้า เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีความสนใจมายาวนาน เข้าร่วมฟังข้อมูลกับเราทุกรอบ มีการทำในส่วนของ Company visit และมีการขอข้อมูลเรา เพื่อนำเข้าแผนตรวจสอบภายใน : Audit Universe เป็นกองทุนที่จะมีการถือระยะยาว จึงมีการตัดสินใจตรงนี้ แต่เรายังไม่ได้เช็คข้อมูลว่ามีรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ที่ทำให้หุ้นร่วงขนาดนี้ เพราะยืนยันได้เลยว่าตัวของหมอเสธ.หรือ IN GLORY ไม่มีการนำหุ้นไปจำนำ เพื่อนำเงินออกมาใช้ ทำให้ในส่วนของการถูก Forced sell เป็นไปไม่ได้เลย" น.ส.ลภัสรดา กล่าว
ทั้งนี้การทำรายการ Big Lot วันนี้ ตั้งไว้ไม่เกิน 5% และจะไม่มีการทำรายการดังกล่าวแล้ว พร้อมยืนยันการขายหุ้นในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหาร หรือโครงสร้างผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด
ณ สิ้นไตรมาส 3/67 บริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นของกองทุนต่างประเทศ ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 12%
น.ส.ลภัสรดา ยังตอบคำถามในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
- การขายหุ้นที่ราคาต่ำกว่ากระดาน เนื่องด้วยตอนที่ MASTER เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีราคา IPO ที่ 47 บาท มีการ dilute หุ้นจำนวน 2 รอบ ส่งผลให้ราคา IPO ลงมาอยู่ที่ 36 บาท ทำให้ราคาที่ขายบิ๊กล็อตครั้งนี้ที่ 37 บาท ถือว่า "ไม่ได้ต่ำกว่าราคา IPO"
- หุ้นที่วางจำนำเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันมาร์จิ้นคิดเป็นสัดส่วน 9% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด เทียบเท่าราว 27 ล้านหุ้น ไม่ใช่มาจากผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MASTER เพราะนายแพทย์ระวีวัฒน์ ไม่ได้นำหุ้นไปวางจำนำ และ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินจากการขายหุ้น พร้อมยืนยันว่าไม่ทราบว่าเป็นผู้ถือหุ้นรายใดไปวางไว้
- สำหรับการดำเนินธุรกิจ ผลประกอบการไตรมาส 4/67 ของบริษัทฯ ยังมีการเติบโตทั้ง QoQ และ YoY ใกล้เคียงกับบทวิเคราะห์ของโบรกฯ หลายสำนัก ขณะที่ในส่วนของพาร์ทเนอร์ ผลประกอบการยังเติบโตในระดับกลางๆ
- กรณีข่าวลือเรื่องโรงพยาบาลทำลูกค้าเสียชีวิตนั้น ยืนยันว่าไม่เคยมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นในโรงพยาบาลของมาสเตอร์พีซนับตั้งแต่เปิดโรงพยาบาลมาจนถึงปัจจุบัน แต่มีการร้องเรียนตามความพึงพอใจ โดยคิดเป็นอัตราไม่ถึง 1% ของลูกค้าทั้งหมด
น.ส.ลภัสรดา กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจในปี 68 ก็ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทวางเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้น 20% โดยเฉพาะการขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะเพิ่มสัดส่วนของตลาดต่างประเทศเป็น 40% จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 27% ผ่านการรุกตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย และ กลุ่ม CLMV เพื่อทดแทนตลาดในประเทศที่เศรษฐกิจยังเติบโตในระดับต่ำ และลูกค้าต่างประเทศจะทำให้กำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้นด้วย