บมจ.ไมด้า แอสเซ็ท (MIDA) แจ้งว่าตามที่งบการเงินของบริษัท ฯ ประจำไตรมาส 1/2551 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2551 ซึ่งผู้
สอบบัญชีไม่สามารถสรุปผลการสอบทานต่องบการเงิน เนื่องจากปัญหาข้อพิพาทระหว่างบริษัทกับ นางสุธาสินี เสตะพันธุ กรรมการของบริษัท สมุย เพนนินซูลา จำกัด(บ.สมุย) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเกี่ยวกับเงินให้กู้ยืมแก่กรรมการของบริษัทย่อย(นางสุธาสินี เสตะพันธุ)จำนวน 256.2 ล้านบาท
ตามที่บริษัทได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ว่ารายการดังกล่าวเป็นข้อขัดแย้งระหว่างบริษัทกับกรรมการของบริษัทย่อยเกี่ยวกับภาระหนี้สินที่มิได้บันทึกไว้ในงบการเงินของบริษัท สมุย ณ วันที่บริษัทเข้าไปร่วมทุน ซึ่งปัจจุบันยังเป็นปัญหาข้อพิพาทอยู่ ซึ่งผู้สอบบัญชีไม่แน่ใจเกี่ยวกับรายการดังกล่าวว่าเป็นเงินกู้ยืมที่แท้จริงหรือไม่ และมูลค่าเงินให้กู้ยืมดังกล่าวจะได้รับคืนหรือไม่
ทั้งนี้ตามที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติให้บริษัทพิจารณาขายหรือซื้อเงินลงทุนในบริษัทที่ร่วมลงทุนกับนางสุธาสินี เสตะพันธุ ซึ่งการที่บริษัทฯอาจจะต้องขายเงินลงทุน ในบริษัทย่อยและอีกสองบริษัทดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่าสุทธิตามบัญชีจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 650 ล้านบาท ออกไปแทนที่จะถือเป็นเงินลงทุนระยะยาวอาจมีผลต่อมูลค่าเงินลงทุนตามที่แสดงไว้ในงบดุล
นอกจากนี้ เนื่องจากข้อพิพาทดังกล่าวในวรรคก่อนบริษัทฯ ยังคงไม่ได้รับงบการเงินของบ.สมุยและงบการเงินของบริษัท ภูเก็ต เพนนินซูลา จำกัด(บ.ภูเก็ต) ซึ่งเป็นบริษัทร่วม สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2551 และสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้ จัดทำงบการเงินรวมสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2551 โดยรวมงบดุลของบ.สมุย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2550 ซึ่งยังไม่ได้ตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีของ บ.สมุยนั้น และบริษัทฯ ได้รวมเงินลงทุนใน บ.ภูเก็ตดังกล่าวตาม
วิธีส่วนได้เสียจำนวน 204.9 ล้านบาท ซึ่งคำนวณจากงบการเงินสำหรับงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2550 ซึ่งยังไม่ได้ตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีของบริษัทภูเก็ต นอกจากนี้บริษัทฯ ยังไม่ได้งบการเงิน
สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2551 ของ บริษัท ฮอท สปริง จำกัด (บ.ฮอท สปริง)ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่มีกรรมการที่พิพาทกับบริษัท ดังนั้นในการจัดทำงบการเงินสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2551 จึงใช้งบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ของบ.ฮอท สปริง ซึ่งตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอื่นของ บ.ฮอทสปริง ถึงแม้บ.สมุย, บ.ฮอท สปริงและ บ.ภูเก็ต จะเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น 50 % และบริษัทร่วม
แต่ทั้งนี้เนื่องจากนางสุธาสินี เสตุพันธุ เป็นประธานกรรมการบริหาร และเป็นผู้บริหารกิจการของ บ.สมุย,บ.ฮอท สปริง และ บ.ภูเก็ต และสืบเนื่องจากข้อขัดแย้งดังกล่าว บริษัทจึงไม่สามารถนำงบการเงินของ บ.สมุย ,บ.ฮอท สปริง และบ.ภูเก็ต มารวมในการจัดทำงบการเงินรวมได้
จากเหตุผลดั งกล่าวซึ่งผู้สอบบัญชีไม่สามารถสอบทานเพื่อให้สามารถระบุได้ว่าข้อพิพาทข้างต้นจะยุติลงอย่างไร และจะมีผลกระทบต่องบการเงินมากน้อยเพียงใดและเนื่องจากบริษัทฯไม่ได้รับงบการเงินสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2551 และสำหรับปี สิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ของบริษัท สมุย,บ.ฮอทสปริง และบ.ภูเก็ต ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งถือว่าเป็นการถูกจำกัด ขอบเขตโดยสถานการณ์ และเนื่องจากมีความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญต่อมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนของเงินให้กู้ยืมและเงินลงทุนตามที่กล่าวข้างต้น ผู้สอบบัญชีจึงไม่สามารถสรุป ผลการสอบทานต่องบการเงิน ประจำไตรมาส 1/2551 ได้
ทั้งนี้ บริษัทชี้แจงเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อขายหุ้น โดยมีการเจรจาไกล่เกลี่ย ภายใต้ขบวนการศาล หากการดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ทางบริษัทพร้อมจะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อเรียกเงินกู้ยืมดังกล่าวคืนต่อไป โดยหากมีความคืบหน้า บริษัทจะดำเนินการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ทราบโดยเร็ว
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--