(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งทรงตัว จับตานโยบาย "ทรัมป์" หลังขึ้นประธานาธิบดี-รอลุ้นงบแบงก์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 20, 2025 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งทรงตัว นักลงทุนรอติดตามการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัล ทรัมป์ ในคืนนี้ โดยคาดว่าจะเห็นการประกาศนโยบายด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะนโยบายด้านภาษีนำเข้าว่าจะมีรายละเอียดอย่างไร

ขณะที่ปัจจัยในประเทศติดตามการเปิดเผยผลประกอบการ ไตรมาส 4/67 กลุ่มแบงก์ โดยในวันนี้หุ้นที่จะรายงาน อาทิ KKP TTB BBL

พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,330 จุด และแนวต้าน 1,350 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (17 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,487.83 จุด เพิ่มขึ้น 334.70 จุด หรือ +0.78%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,996.66 จุด เพิ่มขึ้น 59.32 จุด หรือ +1.00% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,630.20 จุด เพิ่มขึ้น 291.91 จุด หรือ +1.51%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,671.77 จุด เพิ่มขึ้น 220.31 จุด หรือ +0.57% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 19,804.64 จุด เพิ่มขึ้น 220.58 จุด หรือ +1.12% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,256.15 จุด เพิ่มขึ้น 14.33 จุด หรือ +0.44%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ม.ค.)ที่ 1,340.63 จุด ลดลง 11.93 จุด (-0.88%) มูลค่าซื้อขาย 37,576.54 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (17 ม.ค.) 1,256.81 ล้านบาท
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.(17 ม.ค.) ลดลง 80 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 77.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ม.ค.) อยู่ที่ 0.28 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.47/48 แกว่งกรอบแคบ นลท.รอติดตาม "ทรัมป์" แถลงนโยบาย-ตัวเลขศก.สหรัฐ
  • "โดนัลด์ ทรัมป์" เผย มีแผนลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมากที่สุดกว่าร้อยฉบับ "ทันที" หลังแสดงสุนทรพจน์รับตำแหน่ง เน้นนโยบายภายในประเทศ สรท.ประเมินผลกระทบการค้าต่อไทย คาดขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าไทย 10-20% บางรายการ โดยระยะเวลาไม่เท่ากัน จี้รัฐบาลประสานเอกชนหามาตรการรับมือให้เหมาะสม
  • "ไฮสปีด 3 สนามบิน" หมดประเด็นยื้อ หลัง "บอร์ดอีอีซี" ชี้เสนอ ครม.รอบเดียวอนุมัติ ลุ้นบอร์ด รฟท. 29 ม.ค. นี้ อนุมัติร่างสัญญาฯ ฉบับแก้ไข ก่อนส่งอัยการสูงสุดตรวจ "เลขาฯอีอีซี" คาดชง ครม. มี.ค.เม.ย. เซ็นสัญญาออก NTP ลุยตอกเข็ม
  • "อีอีซี" เปิดไฟเขียวเริ่มก่อสร้าง "เมืองการบิน" อู่ตะเภา มูลค่า 2.9 แสนล้านบาท พัฒนาเป็นสถานบันเทิงครบวงจรมีศูนย์การค้าระดับโลก, โรงแรม, สนามแข่งรถ F1, ร้านอาหาร พ่วง "กาสิโน" ตอกเสาเข็ม Q1/68 นี้ วงในเผย Airport City เข้าเกณฑ์รับใบอนุญาตเปิด "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ครบถ้วน ทั้งที่ดินของรัฐและเงินลงทุนสูงเกินแสนล้านบาท ผู้บริหาร BA และ BTS พร้อมดึงกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ร่วมลงทุน ขณะที่ "ทักษิณ" ลั่นทำเหมือน "ลาสเวกัส" เปิดบ่อนไม่เกิน 10% ของพื้นที่ทั้งหมด จ้างงานแห่งละ 20,000 คน
  • "พิชัย" รองนายกฯ และรมว.คลัง เผยจะเร่งแก้กฎหมายเพิ่มอำนาจ ก.ล.ต. ลงดาบในคดีความผิดหลักทรัพย์ หวังสร้างความโปร่งใสในตลาดทุน ย้ำตลาดหุ้นขาลงไม่เหมาะออกทุน LTF ส่วนการเลือกประธานบอร์ดธปท.ยังไม่ส่งรายชื่อแต่ "มีคนในใจ" แล้ว ด้าน บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ ชี้ดัชนีหุ้นไทยปีนี้ 1,550 จุด พร้อมแนะนำเก็บ 12 หุ้นเด่นน่าลงทุน
  • กกพ. ประกาศรับซื้อไฟฟ้าระยะสั้นเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงาน จากผู้ผลิตไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าเป็นไปตามมติ กพช.ที่ให้ขยายมาตรการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนส่วนเพิ่มออกไปอีก 2 ปี ตั้งแต่ปี 68-69 ในรูปแบบ Non-Firm

*หุ้นเด่นวันนี้

  • บมจ.โปร อินไซด์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มเทคโนโลยี โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า [PIS] ในวันที่ 20 ม.ค.68 จำนวนหุ้น IPO 140 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.00 บาท PIS เป็นบริษัทย่อยของ บมจ.สกาย ไอซีที (SKY) บริษัทดำเนินธุรกิจจัดหา จำหน่ายและวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแบบครบวงจร (ICT-Solutions) ครอบคลุมการบริการให้คำปรึกษา วางแผน ออกแบบพัฒนา ติดตั้ง รวมถึงการบำรุงรักษาอุปกรณ์และระบบที่เกี่ยวข้อง
  • CPALL (กสิกรไทย) "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 78.00 บาท เราแนะนำเก็งกำไรเชิง Tactical Call ใน CPALL จากมูลค่าหุ้นที่ลดลงต่ำถึงระดับ -2SD ที่ Fwd PE'68 ต่ำกว่า 20 เท่า มีความเสี่ยงขาลงจำกัด และแนวโน้มผลดำเนินงานที่ดีของ CPAXT ที่ CPALL ถือหุ้น 60% จากประโยชน์การควบรวมที่เร็วกว่าคาดและการเติบโตระดับสูงพร้อมการปรับปรุงอัตรากำไรในปี 2568 ขณะที่มูลค่าหุ้นยังถูกกว่า นอกจากนี้ CPALL มียอดขายสาขาเดิมไตรมาส 4/2567 เติบโต 3.5% คาดผลประกอบการจะเติบโตได้ตามคาด และมีโอกาสได้ประโยชน์จากค่าไฟฟ้าที่อาจลดลงเหลือ 3.70-3.90 บาทต่อหน่วย คาดส่งผลบวกต่อกำไรปี 2568 ประมาณ 3% โดยคาดยอดขายสาขาเดิมปี 2568 จะเติบโต 3% พร้อมแผนขยาย 700 สาขา
  • GULF (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 64.75 บาท แนวโน้มไตรมาส 4/67 คาดกำไรปกติปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ, YoY หนุนจากโรงไฟฟ้า GPD Phase 4 กำลังการผลิตไฟฟ้า 231.8 Mwe ที่เริ่ม COD และส่วนแบ่งกำไรจากกลุ่มโรงฟ้าพลังงานลมปรับขึ้นตามฤดูกาล เช่นเดียวกับกำไรของ INTUCH จะเป็นตัวหนุนที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ทั้งปี 67-68 ตลาดคาดกำไร 1.85 หมื่นล้านบาท +25%YoY และ 2.22 หมื่นล้านบาท +20%YoY ทั้งนี้ราคาหุ้นยังคงมีปัจจัยหนุนต่อเนื่องจากการจัดตั้งบริษัท NewCo ที่ทำให้งบดุลแข็งแกร่งเพิ่มความสามารถในการลงทุนขายธุรกิจเดิมไฟฟ้าและธุรกิจใหม่ทางด้าน Data center และ AI Cloud Solutions
  • BA (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 30 บาท เราคาด BA จะรายงานกำไรปกติราว 100-200 ลบ.ในไตรมาส 4/67 ซึ่งจะมีกำไรเป็นครั้งแรกในไตรมาส 4 ซึ่งเป็น Low Season หนุนจากปริมาณผู้โดยสารที่สมุยที่ทำ Record High ในสัปดาห์สุดท้ายของธ.ค.67 และหนุน ไตรมาส 4/67 +22y-y สูงกว่าก่อนโควิดราว 25% โมเมมตัมจำนวนผู้โดยสาร ม.ค.-ก.พ.68 ยังดีต่อเนื่องและอยู่ระหว่างขอเพิ่มเที่ยวบินรองรับ Demand ที่แข็งแกร่ง เราคาดกำไรปกติปี 2568 +10%y-y ส่วนด้าน Valuation ปัจจุบันเทรด PER เพิยง 10.6 เท่า และคาดให้ Dividend Yield สูงถึง 6% ต่อปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ