นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดีดขึ้นต่อหลังคลายความกังวลระยะสั้นนโยบายกำแพงภาษี "ทรัมป์" ไม่ได้มีท่าทีรุนแรง ดันบอนด์ยีลด์และดอลลาร์อ่อนตัวหนุนสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ราคาหุ้นไทยลงมาระดับที่ valuation ไม่แพงและความเชื่อมั่นน่าจะเป็นภาพค่อยๆ ฟื้นกลับขึ้นมา ปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติยังอยู่ในเกณฑ์ดี พร้อมให้กรอบแนวรับ 1350 จุด และแนวต้าน 1380 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะปรับตัวขึ้นไปต่อได้ โดยเฉพาะจากปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนคลายความกังวลระยะสั้นนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ มีท่าทีที่รุนแรงน้อยกว่าที่เคยกังวลการตั้งกำแพงภาษี เบื้องต้นยังไม่ได้ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน แต่หันไปโฟกัสที่แคนาดาและเม็กซิโก 25% ตั้งแต่ 1 ก.พ. ส่งผลให้ภาพรวมตลาดยังมีโมเมนตัมของการผ่อนคลาย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี (บอนด์ยีลด์) ย่อตัวลง และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ช่วยหนุนสินทรัพย์เสี่ยงมีโอกาสในการปรับตัวขึ้น
สำหรับการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติเพื่อเพิ่มการผลิตน้ำมันของทรัมป์ ระยะสั้นทำให้ราคาน้ำมันและราคาก๊าซธรรมชาติลดลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำ อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวเป็น sentiment บวกให้กับกลุ่มที่มีต้นทุนด้านพลังงานสูง โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้า
ขณะที่ในประเทศ ราคาหุ้นไทยปรับตัวลงมาระดับหนึ่งแล้ว ทำให้ Valuation ไม่แพง และความเชื่อมั่นจะเป็นภาพของการค่อย ๆ ฟื้นกลับขึ้นมา โดยปัจจัยบวกสำคัญ คือ รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง อาทิ โครงการ Easy E-receipt นอกจากนี้ วานนี้มีการเปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-19 ม.ค. 68 ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ขยายตัวได้ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,350 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด