(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าดีดขึ้นต่อหลัง"ทรัมป์"ไม่แข็งกร้าวทำเทรดวอร์ หุ้นไทย Valuation ไม่แพง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 22, 2025 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดีดขึ้นต่อหลังคลายความกังวลระยะสั้นนโยบายกำแพงภาษี "ทรัมป์" ไม่ได้มีท่าทีรุนแรง ดันบอนด์ยีลด์และดอลลาร์อ่อนตัวหนุนสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ราคาหุ้นไทยลงมาระดับที่ valuation ไม่แพงและความเชื่อมั่นน่าจะเป็นภาพค่อยๆ ฟื้นกลับขึ้นมา ปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติยังอยู่ในเกณฑ์ดี พร้อมให้กรอบแนวรับ 1350 จุด และแนวต้าน 1380 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะปรับตัวขึ้นไปต่อได้ โดยเฉพาะจากปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนคลายความกังวลระยะสั้นนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ มีท่าทีที่รุนแรงน้อยกว่าที่เคยกังวลการตั้งกำแพงภาษี เบื้องต้นยังไม่ได้ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน แต่หันไปโฟกัสที่แคนาดาและเม็กซิโก 25% ตั้งแต่ 1 ก.พ. ส่งผลให้ภาพรวมตลาดยังมีโมเมนตัมของการผ่อนคลาย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี (บอนด์ยีลด์) ย่อตัวลง และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ช่วยหนุนสินทรัพย์เสี่ยงมีโอกาสในการปรับตัวขึ้น

สำหรับการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติเพื่อเพิ่มการผลิตน้ำมันของทรัมป์ ระยะสั้นทำให้ราคาน้ำมันและราคาก๊าซธรรมชาติลดลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำ อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวเป็น sentiment บวกให้กับกลุ่มที่มีต้นทุนด้านพลังงานสูง โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้า

ขณะที่ในประเทศ ราคาหุ้นไทยปรับตัวลงมาระดับหนึ่งแล้ว ทำให้ Valuation ไม่แพง และความเชื่อมั่นจะเป็นภาพของการค่อย ๆ ฟื้นกลับขึ้นมา โดยปัจจัยบวกสำคัญ คือ รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง อาทิ โครงการ Easy E-receipt นอกจากนี้ วานนี้มีการเปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-19 ม.ค. 68 ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ขยายตัวได้ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,350 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด

ด้านนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แม้มีรายงานข่าวว่าทรัมป์ จะพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มอีก 10% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. แต่มองว่าผลกระทบไม่มาก เนื่องจากเป็นการปรับขึ้นน้อยกว่าที่เคยหาเสียงว่าจะปรับขึ้น 60% ถือว่าดีกว่าตลาดคาด และเป็นโอกาสในการเจรจาระหว่างจีนกับสหรัฐ ทั้งนี้ต้องติดตามรายละเอียดนโยบายด้านภาษีศุลกากรต่อไป

นอกจากนี้ปัจจัยในประเทศเงินบาทแข็งค่า หนุนเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลกลับได้ อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นของดัชนีอาจไม่ไกล เนื่องจากมีแรงขายกองทุน LTF ออกมา ซึ่งหากดัชนีปรับตัวขึ้นอาจมีแรงขายออกมาเพิ่มเติมได้

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (21 ม.ค.68) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,025.81 จุด เพิ่มขึ้น 537.98 จุด หรือ +1.24%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,049.24 จุด เพิ่มขึ้น 52.58 จุด หรือ +0.88% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,756.78 จุด เพิ่มขึ้น 126.58 จุด หรือ +0.64%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,355.22 จุด เพิ่มขึ้น 327.24 จุด หรือ +0.84% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 19,997.09 จุด ลดลง 109.46 จุด หรือ -0.54% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,235.49 จุด ลดลง 7.13 จุด หรือ -0.22%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ม.ค.68) ที่ 1,352.53 จุด เพิ่มขึ้น 12.03 จุด (+0.90%) มูลค่าซื้อขาย 38,012.20 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (21 ม.ค.68) 192.40 ล้านบาท
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.(21 ม.ค.68) ลดลง 1.99 ดอลลาร์ หรือ 2.56% ปิดที่ 75.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ม.ค.68) อยู่ที่ -0.03 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.94 แข็งค่าหลุด 34 บาทตามทิศทางภูมิภาค รับเม็ดเงินไหลเข้า
  • "เอสซีบีเวลธ์" ชี้ปี 68 ยังอยู่ท่ามกลางความผันผวน ความเสี่ยงทั่วโลก เดินหน้างัดโซลูชันการลงทุน พร้อมเปิดตัว "ทีมผู้เชี่ยวชาญ" การลงทุนครบวงจรสะท้อนแนวคิดการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง วางเป้าดัชนีหุ้นไทย 1,550 จุด มองนโยบายรัฐหนุนลงทุนฟื้น
  • ส่องตลาดที่อยู่อาศัย กทม. ปริมณฑล ปี'68 ลุ้นฟื้นตัว 10% ผ่านจุดต่ำสุดปี'67 โชว์เปิดตัวใหม่ 381 โครงการ กว่า 6.7 หมื่นยูนิต มูลค่าพุ่ง 4.7 แสนล้าน สวนสต๊อกเหลือ 2.39 แสนยูนิต มูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านบาท ปัจจัยหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดค่าโอน-จำนองต่อ 'อนันดา'เน้นระบายของเก่า กำเงินสด
  • "เอกชน" มองความท้าทายโลก ยุค "ทรัมป์ 2.0" มีทั้งวิกฤติ และโอกาส "หอการค้า" ชี้ไทยต้องจับตาใกล้ชิด "ส.อ.ท." แนะรัฐ-เอกชนตั้งวอร์รูมจับตาการเปลี่ยนแปลงพลิกวิกฤติสู่โอกาส ด้าน "ดับบลิวเอชเอ" ชี้ไทยได้เปรียบนโยบาย หากต้อง บาลานซ์ลงทุนทั้งจีน-สหรัฐให้ดี "เอเซีย พลัส" มองเป็นโอกาสดีที่ไทยควรปรับ ก.ม.ให้ทันสมัย "เอสซีบี อีไอซี" มองการมาของทรัมป์ถือเป็นการดิสรัปชั่นของโลก ขณะที่ "ศูนย์วิจัยกสิกรฯ" ชี้การค้าโลกปีนี้ส่อวุ่น

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SEAFCO (ฟินันเซียไซรัส) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 3 บาท รับงานใหม่เดือนม.ค.68 รวม 1.4 พันล้านบาท หลักๆเป็นรถไฟฟ้าสายสีส้ม จำนวน 4 สถานี มูลค่ารวม 1.2 พันล้านบาท หนุนให้ Backlog ปัจจุบันสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ 1.7 พันล้านบาท หนุนให้โมเมนตัมกำไรจะเริ่มไต่ระดับขึ้นใน ไตรมาส 1/68 และโดดเด่นใน ไตรมาส 2-3 ปี 68 จากการรับรู้งานขนาดใหญ่และมาร์จิ้นดี เราคงประมาณการกำไรปี 68 กลับมาฟื้นเด่นเป็น 152 ล้านบาท เติบโต 5 เท่าตัว y-y ขณะที่มี Upside หาก SEAFCO ได้รับงานสายสีส้มเพิ่มเติม ซึ่งเรามองว่าบริษัทมีศักยภาพรับเพิ่มอีก 2 สถานี มูลค่ารวม 600 ล้านบาท
  • MOSHI (กสิกรไทย) แนะนำ "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 56.10 บาท มองเชิงบวกคาดกำไร Q4/67 จะแข็งแกร่ง เติบโต 28.8% จากปีก่อนและ 78.2% จากไตรมาสก่อน จากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่เติบโต 15% ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้น 30.5% จากปีก่อน ทะลุ 1 พันล้านบาทเป็นไตรมาสแรก ประกอบกับเปิด 5 สาขาใหม่ และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 50 bps จากไตรมาสก่อน หากไม่รวมผลขาดทุนจากกิจการร่วมค้า อัตรากำไรขั้นต้นหลักจะโต 1% พร้อมสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายที่ลดลง ปี 68 ตั้งเป้าเปิด 40 สาขา คงเป้ารายได้เติบโต 15-20% และขยายอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 60% โดย SSSG ในสองสัปดาห์แรกของปืยังเติบโต 3-4%
  • PCE (คิงส์ฟอร์ด) แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" งวด 9 เดือนแรกปี 67 กำไรสุทธิ 397 ล้านบาท +103%YOY ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มกำไรปกติ Q4/67 ยังดีขึ้น QoQ จากราคา CPO ในประเทศเพิ่มขึ้นสอดคล้องตลาดโลก ช่วยชดเชยปริมาณขาย B100 ที่ถูกกระทบจากการปรับสัดส่วนเป็น B5 ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย.67 ขณะที่อัตรากำไรขันต้นน่าจะรักษาระดับได้และผันผวนน้อยกว่าคนอื่น เนื่องจากธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ โดยทั้งปี 67 ผู้บริหารคาดรายได้จะเติบโตได้ 10-15% ตามเป้าหมาย ส่วนในปี 68 แม้ในประเทศจะถูกกระทบจาก B5 แต่จะได้ประโยชน์จากตลาดส่งออกในช่วง H1/68 ที่ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงจากนโยบายปรับส่วนผสมไบโอดีเซลของอินโดนีเซียเพิ่มเป็น B40 ส่วน PCE เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่มี Maket Share อันดับ 1 ของไทย มีความได้เปรียบการแข่งขันที่ตอนนี้ไทยยังไม่มีการเก็บ export tax

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ