นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็คโกรท (IMPACT GROWTH REIT) [IMPACT] กล่าวว่า กิจกรรมงานประชุม นิทรรศการ อีเวนท์ และงานคอนเสิร์ตในช่วงปลายปี 67 ที่ผ่านมา มียอดผู้จัดงานพุ่งรับไฮซีซั่น ในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม มีจำนวนการจัดงานกว่า 240 งาน หนุนอัตราการใช้พื้นที่เติบโตขึ้นทำสถิติสูงสุดรายไตรมาสของปี รับเศรษฐกิจและท่องเที่ยวพีคช่วงปลายปี และมีงานที่รอจัดต่อเนื่องจนถึงปี 68 ตอกย้ำการเดินหน้าสร้างรายได้ในปี 67/68 (งบสิ้นสุด มี.ค. 68) คาดเติบโตตามเป้าหมาย 25%
บริษัทประเมินปี 68 จะเป็นปีที่ IMPACT มีสตอรี่ใหม่เข้ามาสนับสนุน เตรียมพร้อมรับอานิสงส์โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเมืองทองธานีแล้วเสร็จ จะเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่เข้ามาสนับสนุนการเดินทางสู่งานประชุม งานแสดงสินค้า และงานคอนเสิร์ตที่ IMPACT ได้แบบไร้รอยต่อ ด้วยจุดเด่นรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าอีก 4 สาย เพิ่มทราฟฟิคการเข้ามาร่วมงานมากยิ่งขึ้น
ขณะที่แผนการก่อสร้างโครงการ Sky Entrance เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า MT-01 (สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี) และอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เป็นการดำเนินงานก่อสร้างสะพานทางเชื่อม พื้นที่ล็อบบี้ด้านข้างอาคารชาเลนเจอร์ เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า โดยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อิมแพ็ค โกรท (IMPACT GROWTH REIT) ปัจจุบันคืบหน้างานก่อสร้างไปแล้ว 90% คาดแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์นี้ตามแผน สอดคล้องกับกำหนดการสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายที่คาดจะเปิดให้บริการภายในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 68 เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง ดึงลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี IMPACT เตรียมจับมือพาร์ทเนอร์นำเทคโนโลยี IoT เข้ามาช่วยบริหารจัดการอย่างเต็มระบบ รับการมาของรถไฟฟ้า และอุตสาหกรรม MICE ที่ประเมินว่าจะมีการจัดงานคึกคัก สอดรับการเติบโตของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหนุน โดยในเฟสแรกจะเริ่มติดตั้ง CCTV เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อแก้ปัญหาและบริหารจัดการเรื่องการจราจรภายในพื้นที่ อำนวยความสะดวกลูกค้าในการเดินทางมางาน และมองว่าการที่ IMPACT มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับ และเตรียมพร้อมการขยายฐานลูกค้าต่างประเทศ จะเป็นไฮไลต์ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้