นายวัลล์ชัย เวชชีวะดำรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย [INET] คาดว่า รายได้ในปี 68 จะอยู่ที่ 3,200 ล้านบาท จากงวด 9 เดือนปี 67 รายได้อยู่ที่ 1,843 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทมีรายได้หลักจาก Cloud Service และ Digital Platform Service โดยบริษัทวางเป้าหมายยอดซอฟต์แวร์ที่ให้บริการและลูกค้า หรือ Virtual Machine Instance (VMI) ของธุรกิจ Cloud computing ไว้ที่ 120,000 VMIs จากเดิมวางไว้ 100,000 VMIs
เนื่องจากเห็นการเติบโตในไตรมาส 1/68 มีแนวโน้มธุรกิจ Cloud เติบโตได้ดี และกลางปีมีโอกาสแตะ 100,000 VMIs โดยเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนที่สิ้นปีมียอดทั้งหมด 64,300 VMIs ซึ่งโตเท่าตัวจากต้นปี 67 และจำนวนลูกค้าปี 68 น่าจะอยู่ที่ 10,000 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 67 ที่ 5,072 ราย ส่วนในปี 69 บริษัทจะขยายธุรกิจ AI ที่จะข่วย Support ลูกค้าได้เร็วและต้นทุนต่ำ
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ธุรกิจ Cloud เติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามการเติบโตตามธุรกิจ Cloud ทั่วโลกปีละ 22% ต่อเนื่อง ส่วนในไทยมีมูลค่าตลาดนี้ 1.7-1.8 หมื่นล้านบาทปีก่อน ปีนี้คาดโต 20% แตะ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่ง INET กินส่วนแบ่งได้ดี และ INET ยังเป็นธุรกิจไทยรายเดียวที่ชิงส่วนแบ่งตลาดในไทย (Local Cloud)
นอกจากนี้นโยบาย Cloud First Policy ของภาครัฐปีนี้จะที่ช่วยหนุนธุรกิจ ซึ่ง INET เป็น 1 ใน 6 รายที่เข้าไปดำเนินการ
พร้อมกันนี้บริษัทเตรียมที่จะลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ แห่งที่ 4 ด้วยเงินลงทุน 2,500 ล้านบาท เพราะเห็นแนวโน้มยอดน่าจะไปถึง 120,000 VMIs แน่ จากปัจจุบันมีดาต้าเซ็นเตอร์อยู่ 3 แห่ง คือ กรุงเทพ 2 แห่ง และสระบุรี 1 แห่ง ซึ่ง 3 แห่งรองรับได้เต็มที่ 140,000 VMIs
โดยดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งที่ 4 คาดว่าจะสร้างในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาจจะเป็นที่ขอนแก่นที่จะมีปริมาณรองรับขั้นต่ำ 250,000 VMIs และหากจะขยายเพิ่มเติม โดยทุก ๆ 50,000 VMIs จะใช้เงินลงทุน 500 ล้านบาท โดยขยายกำลังสูงสุดที่ 500,000 VMIs และสามารถขยายไปถึง 1 ล้านVMIs แต่จะต้องแก้ปัญหาเรื่องพลังงานให้ได้ก่อน
ส่วนกรณี Amazon เข้ามาลงทุนตั้ง Data Center ในประเทศไทย นายวัลล์ชัย คาดว่า Amazon น่าจะเข้ามารับลูกค้าใหญ่ที่มีข้อมูลสำคัญ ซึ่งน่าจะเป็นภาครัฐ บริษัทขนาดใหญ่ ขณะที่ INET จับลูกค้าขนาดกลาง และเล็กที่ต้องการทรานส์ฟอร์มไปสู่ดิจิทัลมากขึ้น ทำให้ไม่รับผลกระทบเพราะอยู่คนละตลาด
https://youtu.be/ewL-O4_zuLQ