TISCO ESU เก็งเฟดคงดอกเบี้ยถึงกลางปี 68 หุ้นแบงก์สหรัฐรับอานิสงส์-กลุ่มเทคเสี่ยงถูกกดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 30, 2025 15:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

TISCO ESU เก็งเฟดคงดอกเบี้ยถึงกลางปี 68 หุ้นแบงก์สหรัฐรับอานิสงส์-กลุ่มเทคเสี่ยงถูกกดดัน

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) คาดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงดอกเบี้ยระดับ 4.25-4.50% ถึงกลางปี 2568 ดันบอนด์ยีลด์ทรงตัวสูงสุดรอบ 17 ปี จับตาผลกระทบกลุ่มธนาคารสหรัฐรับอานิสงส์ ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยี รวมหุ้น "7 นางฟ้า" เสี่ยงถูกกดดัน

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ กล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.25-4.50% ไปจนถึงอย่างน้อยช่วงกลางปี 2568 นี้ และอาจทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ (บอนด์ยีลด์) ทรงตัวอยู่ที่ 4.50-5.0% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติซับไพรม์ปี 2551 จากประเด็นดังกล่าวส่งผลบวกโดยตรงกับหุ้นกลุ่มธนาคารในสหรัฐฯ ที่จะได้รับประโยชน์จากรายได้ดอกเบี้ยรับที่เพิ่มขึ้น แต่กดดันตลาดหุ้นโลกโดยรวม โดยเฉพาะหุ้นที่ซื้อขายด้วยมูลค่า (Valuation) สูง

"บอนด์ยีลด์ที่ทรงตัวในระดับสูงจะกดดันตลาดหุ้นโลก โดยเฉพาะหุ้นที่มี Valuation ในระดับที่แพงมาก โดยหุ้นสหรัฐฯ (S&P500) ซื้อขายด้วยระดับราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) สูงถึง 21 เท่า โดยกลุ่มหุ้นที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่ม "7 นางฟ้า" ที่ซื้อขายด้วยระดับสูงนั้นจะถูกกดดันมากเป็นพิเศษ ในทางกลับกันจะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคารสหรัฐฯ ที่จะได้รับอานิสงส์จากรายได้ดอกเบี้ยรับที่เพิ่มขึ้นตามบอนด์ยิลด์" นายคมศร กล่าว

สำหรับปัจจัยที่ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ มองว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงกลางปี 2568 มีดังนี้

เงินเฟ้อสูง เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังทรงตัวอยู่เหนือระดับเป้าหมาย 2% โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในสหรัฐฯ นั้น ไม่ได้มีแนวโน้มปรับลดลงตั้งแต่กลางปีที่แล้ว และได้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 3.20-3.30% ต่อเนื่องเป็นเวลา 8 เดือน ขณะที่ตลาดแรงงานในสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ปรับตัวลดมาอยู่ที่ 4.10% ในเดือนธันวาคม ประกอบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ยังแข็งแกร่ง ถือเป็นอุปสรรคต่อการลดดอกเบี้ยของเฟดและทำให้ตลาดต้องปรับคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยของ เฟดเพิ่มขึ้น โดยก่อนหน้านี้ตลาดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยได้รวม 4 ครั้งในปี 2568 แต่ปัจจุบันตลาดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ความไม่แน่นอนนโยบายกำแพงภาษีของทรัมป์ อีกหนึ่งปัจจัยที่อาจกระทบกับแนวโน้มดอกเบี้ย คือความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายกำแพงภาษีของนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาในช่วงหาเสียงว่า จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึง 60% และสินค้านำเข้าจากประเทศอื่น ๆ อีก 10% ซึ่ง TISCO ESU ประเมินว่า กำแพงภาษีดังกล่าวจะส่งผลให้เงินเฟ้อในสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้นถึง 1.20% ซึ่งหากทรัมป์ดำเนินการตามที่หาเสียงจริง ๆ อาจส่งผลให้ Fed นอกจากจะไม่ลดดอกเบี้ยแล้ว ยังอาจต้องกลับมาขึ้นดอกเบี้ยแทนเสียด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ในกรณีฐาน TISCO ESU ประเมินว่า ทรัมป์จะขึ้นกำแพงภาษีกับจีนเพียงครึ่งหนึ่งของที่ประกาศไว้ และจะขึ้นกำแพงภาษีจากทั่วโลกอีกเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้ Fed สามารถลดดอกเบี้ยได้อีก 2 ครั้งในช่วงครึ่งปีหลังไปที่ระดับ 4% หลังจากที่การบังคับใช้กำแพงภาษีมีความชัดเจนแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ