นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ แกว่งตัวออกด้านข้าง ยังไม่เห็นปัจจัยบวกใหม่ แม้วานนี้ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/67 ของสหรัฐ ขยายตัว 2.3% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5% แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.
ทั้งนี้บ้านเรายังต้องติดตามดูแรงขายทำกำไรในหุ้น DELTA มองว่าราคาหุ้นอาจลงมาที่แนวรับ 125-120 บาท/หุ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าเป็นการย้ายเม็ดเงินลงทุนจากกลุ่มเทคโนโลยี ไปยังหุ้นกลุ่มอื่น ๆ ทำให้การปรับตัวลงของดัชนีฯ ยังจำกัด
นอกจากนี้รอติดตาม การเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ให้แนวรับไว้ที่ 1,330-1,325 จุด และแนวต้าน 1,360 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (30 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,882.13 จุด เพิ่มขึ้น 168.61 จุด หรือ +0.38%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,071.17 จุด เพิ่มขึ้น 31.86 จุด หรือ +0.53% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,681.75 จุด เพิ่มขึ้น 49.43 จุด หรือ +0.25%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,574.38 จุด เพิ่มขึ้น 60.41 จุด หรือ +0.15% ตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง ปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 ม.ค.) ที่ 1,335.64 จุด ลดลง 7.55 จุด (-0.19%) มูลค่าซื้อขาย 29,582.77 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (30 ม.ค.) 108.03 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.(30 ม.ค.) เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.15% ปิดที่ 72.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 ม.ค.) อยู่ที่ 1.42 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.63/65 แข็งค่าหลังมีแรงขายดอลลาร์ ตลาดจับตาตัวเลข PCE สหรัฐ
- "คลัง" ดัน "จีดีพี" ปี 2568 โต 3% ชู 4 ปัจจัยบวก 5 แผนงาน เร่งเบิกจ่าย ลงทุน บ้านเพื่อคนไทย ซีเกมส์ หนุนเศรษฐกิจ หวังโครงการลงทุนขนาดใหญ่หลังคำขอลงทุนพุ่ง คาดนักท่องเที่ยว ปี 68 แตะ 38.5 ล้านคน รายได้ 1.83 ล้านล้าน สศค.จับตา 5 ปัจจัยเสี่ยงการค้าต่างประเทศ หลังทรัมป์รับตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย 'เศรษฐพุฒิ' เตือนจีดีพีปีนี้อาจโตต่ำกว่า 2.9% ไม่ถึงเป้าที่คลังตั้งไว้ 3%
- "พิชัย" เร่งออก "สเตเบิลคอยน์" ปีนี้ คาดประเดิมเฟสแรก "หมื่นล้าน" โดยใช้ "พันธบัตรรัฐบาล" เป็นแบ็ก หนุนประชาชนรายย่อยเข้าถึงการลงทุน เตรียมต่อยอดเฟสสอง เอื้อให้สามารถเชื่อมร้านค้าใช้ "ซื้อสินค้า-บริการ" ต่อได้ ลั่นภายในสองสัปดาห์เตรียมดัน พ.ร.ก.ให้อำนาจ ก.ล.ต.จัดการทุจริตในตลาดหลักทรัพย์เข้า ครม.
- "อิ๊งค์" ขอเวลาดูรายละเอียด กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เหตุเป็นของใหม่ของประเทศ ขณะนี้อยู่ในกระบวนการ ยังไม่ลงลึกสถานที่ตั้ง ปชช.เดินหน้าล่า 50,000 ชื่อ "ไม่เอากาสิโน ต้องประชามติ"นักวิชาการ ชี้ ไม่ได้หาเสียงไว้ ทำเลยไม่ได้ ย้ำ ประเทศนี้ไม่ใช่ของนักการเมือง
- ธปท. สั่งยกระดับป้องกันบัญชีม้า ดีเดย์วันนี้ "ห้ามโอนเงิน เข้าบัญชีม้า" พร้อมสั่ง "แบงก์" แจ้งเตือนลูกค้าทันที ว่าเป็นบัญชีต้องสงสัยจับตาโอนเงินเข้า "บัญชีคริปโทฯ" ถี่โอนรวดเร็วหลังได้เงิน เสี่ยงเป็นบัญชีต้องสงสัย
- ก.ล.ต. เปิดแผนพลิกฟื้น "ความเชื่อมั่น" นักลงทุน พร้อมชู "5 แผน" ขับเคลื่อนองค์กรใน 3 ปี (68-70) ทั้ง "สร้างความเชื่อมั่น" ขับเคลื่อนตลาดทุน ไปสู่ "เศรษฐกิจดิจิทัล" เพิ่มกลไกตรวจจับและป้องกันทุจริต
- คลังนัด "ธปท.-สภาพัฒน์" ถกเข้มแนวทางดูแลเศรษฐกิจต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 หลังเศรษฐกิจไทยยังเผชิญความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก คงจีดีพีปีนี้ 3% แต่มีลุ้นแตะ 3.5% หากเศรษฐกิจทั้งใน-นอกประเทศเอื้ออำนวยรวมถึงมีการเร่งรัดและติดตามผลการดำเนินงานของนโยบายต่างๆ อย่างเต็มที่
- รมว.พาณิชย์ ถก JETRO และหอการค้าญี่ปุ่น ดึงกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทั้งเซมิคอนดักเตอร์ ดาต้าเซ็นเตอร์ แผงวงจรพิมพ์ และ AI เข้าลงทุนในไทย ประกาศพร้อมเป็นซัพพลายเชนรับงบลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท เตรียมบินเยือนสหรัฐฯ 3-8 กุมภาพันธ์นี้ เจรจากำแพงภาษีจากนโยบายทรัมป์
*หุ้นเด่นวันนี้
- BBIK (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 50.10 บาท กำไรยังมีแนวโน้มขยายตัวดี การเติบโตของกำไรหลักปีงบ 68 น่าจะได้รับแรงหนุนจากโครงการธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) โครงการย้ายข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ และการนำ AI มาใช้มากขึ้น BBIK คาดว่าโครงการที่เกี่ยวข้องกับ AI จะมีสัดส่วนรายได้มากกว่า 50% ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า จากประมาณ 20% ในไตรมาส 3/67 กำไรหลักในไตรมาส 4/67 มีแนวโน้มขยายตัวเกณฑ์ดีจากความต้องการบริการด้านเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งจากภาคธนาคาร ประกันภัย และค้าปลีก ทั้งนี้ BBIK ปิดไตรมาสไตรมาส 3/67 ด้วยยอด Backlog ที่ 871 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ 355 ล้านบาทมีกำหนดรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 4/67 ซึ่งหมายความว่า รายได้ 4Q67 ที่เราคาดไว้ที่ 431 ล้านบาท (+16% YoY, +11% QoQ) ถูกรองรับโดย backlog แล้วกว่า 82%
- BE8 (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" Bloomberg Consensus 19.75 บาท หนึ่งในหุ้นที่ยังมีปัจจัยบวกจากเทรนด์ธุรกิจในอนาคตทั้งในด้าน Digital Transformation และ Cybersecurity ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานปกติในช่วงไตรมาส 4/67 ถึง ปี68 คาดว่าจะเห็นการทะยอยฟื้นตัวได้ โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/67 ทาง BE8 มี Backlog อยู่ที่ราว 1,737 ลบ. และมีงานใน Pipeline(ที่มีโอกาสได้งาน) ราว 6,209 ลบ. คาดทยอยรับรู้ภายในปี 2567 นี้ราว 1 ใน 4 และรับรู้ภายในสิ้นปี68 อีก 2 ใน 3 ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าปี67 และ68 กำไรสุทธิของ BE8* จะอยู่ที่ระดับ 165 ลบ. (-33%YoY) และ 244 ลบ.(+48%YoY)
- CHG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 3.40 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 156 ลบ. +63% q-q, -43% y-y แต่หากตัดรายการพิเศษส่วนประกันสังคมและการยุติสัญญาบริหารรพ.พัทยาที่เป็นลบในไตรมาส 4/67 รวมถึงส่วนประกันสังคมที่เป็นบวกในไตรมาส 4/66 เราคาดผลการดำเนินงานปกติจะอยู่ที่ 244 ลบ. +20% y-y เราคาดผลประกอบการของ CHG จะกลับมาเติบโตแข็งแกร่งเป็นปกติในปี 2568 ที่ 1.3 พันลบ. +23% y-y หลังประกันสังคมประกาศจ่าย RW>2 Fix ที่ 1.2 หมื่นบาทต่อ RW ขณะที่การดำเนินงานหลักในส่วนเงินสดคาดยังเติบโตได้ ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด PER เพียง 19 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ราว 30 เท่า