CONSENSUS: WHA แจ่ม! กำไรปี 68 จ่อทำนิวไฮต่อ รับทุนจีนย้ายเข้าไทย

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 3, 2025 17:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเชียร์ "ซื้อ" หุ้น บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น [WHA] ลุ้นปี 68 กำไรนิวไฮต่อเนื่องจากธุรกิจหลักขายที่ดินนิคมฯ ที่บริษัทตั้งเป้า 2,350 ไร่ แม้จะลดลง 8% YoY แต่ยังมีอัพไซด์โอกาสปรับเป้าขึ้นไปถึง 2,500-2,600 ไร่ หลังจากเซ็นสัญญาแล้ว 500 ไร่ในเดือน ม.ค.และได้ยอดจองจากกลุ่ม Data Center อีก 400 ไร่ โดยที่ดินของ WHA มีต้นทุนต่ำ ทำให้สร้างมาร์จิ้นสูงขึ้น

นอกจากนั้น ยังได้รับประโยชน์จาก Geopolitical risk มีการเคลื่อนบ้ายฐานผลิตจากจีนเข้ามาด้วย แ ขณะที่ธุรกิจน้ำ-ไฟฟ้า (WHAUP) และโลจิสติกส์ ก็เติบโตตามธุรกิจนิคมฯ

อีกทั้ง ธุรกิจ Mobilix (กลุ่มธุรกิจใหม่-รถอีวี) คาดว่าจะเร่งตัวได้เร็ว โดยปี 67 มี EV car 330 คัน และจะเร่งตัวขึ้นเป็น 1,700 คันในปี 68 เพื่อรองรับลูกค้าในกลุ่มนิคมฯ

ราคาหุ้น WHA ปิดที่ 4.82 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท (+1.26%)

          โบรกเกอร์ 		  คำแนะนำ		ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          เอเชียพลัส                outperform            6.90
          ฟิลลิปฯ                       ซื้อ                6.70
          อินโนเวสท์เอกซ์            outperform            6.60
          แลนด์แอนด์เฮ้าส์                ซื้อ                6.60
          บัวหลวง                Trading Buy             6.50
          กรุงศรี                       ซื้อ                6.40
          เคจีไอ                   outperform            6.20

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า แผนธุรกิจ WHA ในปี 68 เติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจุบันไทยและเวียดนามยังคงความเป็นจุดเด่นจาก Cost of living & Energy ที่ต่ำ และยังมีดีมานด์จาก Geopolitical risk เข้ามาเสริม ซึ่งจะทำให้ WHA เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดปี 68 ทำกำไร record high ได้ต่อเนื่อง จากการเติบโตทุกส่วนธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจนิคมฯ คาดยอดโอนเพิ่มขึ้นจากลูกค้า Data center ที่ทำสัญญาในช่วงปี 67 ที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจของ WHAUP, โลจิสติกส์ เติบโตตามการขยายธุรกิจนิคมฯ จะเข้ามาช่วยสร้าง Recurring income ให้กับ WHA group ได้ดี

ธุรกิจนิคมในไทยขยายพื้นที่ในเขต EEC เพิ่มมากขึ้น และมีการวางแผนธุรกิจ Residential เจาะกลุ่มลูกค้านิคมฯ เพื่อสร้าง Recurring income ในอนาคต และขยายนิคมไปในเวียดนามในหลายจังหวัดมากขึ้น

ปัจจุบันไทยและเวียดนามยังคงความเป็นจุดเด่นจาก Cost of living & Energy ที่ตี และยังมีดีมานด์จาก Geopolitical risk เข้ามาเสริม ซึ่ง WHA ตั้งเป้ายอดขายปี 68 ที่ 2,350 ไร่ แม้ลดลงกว่าปีก่อน แต่ทางฝ่ายฯ มองว่าเป้าที่ให้มาค่อนข้าง conservative และส่วนใหญ่ WHA มักจะปรับประมาณการขึ้นในระหว่างปี ซึ่งทางฝ่ายฯคาดปี 68 มียอดโอนที่ดินเพิ่มขึ้น y-y จากโอนที่ดินลูกค้ากลุ่มธุรกิจ Data center ได้มากขึ้น จากการทำสัญญาขายที่ดินในช่วงปี 67 ที่ผ่านมาและมีราคาขายเฉลี่ยที่ดินสูงขึ้น

ขณะที่ WHAUP ตั้งเป้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดในปี 68 เพิ่มอีก 220 MW เป็นปัจจัยช่วยหนุนให้กำลังการผลิตเพิ่มจากเดิมที่มีอยู่ 965 MW ในปี 67 ส่วนธุรกิจน้ำเติบโตได้ต่อเนื่องตามการขยายนิคมของ WHA ซึ่งลูกค้าใหม่ที่เข้ามาธุรกิจ PCB, Data center มีอัตราการใช้น้ำสูงกว่าธุรกิจทั่วไปที่ 12-16 เท่า/ไร่ ทำให้ WHAUP จะเข้ามาช่วยเพิ่ม Recurring income ให้กับ WHA group ได้ดี

ส่วนธุรกิจโลจิสติกส์ขยายคลังสินค้าเพิ่มอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถรองรับดีมานด์ในกลุ่มลูกค้าโรงงาน, Consumer, Food supply chain เป็นต้น

ธุรกิจ Mobilix คาดว่าจะเร่งตัวได้เร็ว โดยปี 67 มี EV car 330 คัน และจะเร่งตัวขึ้นเป็น 1,700 คันในปี 68เพื่อรองรับลูกค้าในกลุ่มนิคม ตั้งเป้ารายได้ระดับ 1.0 พันลบ./ปี ภายในปี 69

ทั้งนี้ ในปี 67 คาดยอดขาย 2,565 ไร่ ยอดโอนที่ดิน 2,070 ไร่ รายได้รวมส่วนแบ่งกำไร 14,400 ล้านบาท รายได้รวมอ่อนตัว y-y จากการขายสินทรัพย์เข้า REIT มีมูลค่าลดลง และมีการโอนที่ดินที่เป็น JV (WHA-IER) แต่ด้วยราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น ช่วยให้มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น คาดการณ์เบื้องต้นปี 67 มีกำไรระดับ 4.5-4.6 พันล้านบาท +3.1%y-y ยังคงทำ record high

และในปี 68 คาดรายได้รวมส่วนแบ่งกำไร 20,000 ล้านบาท เติบโต y-y ได้ดีจากโอนที่ดินในกลุ่มลูกค้า Data center และจะมีขายสินทรัพย์เข้า WHART มูลค่า 1,500 ล้านบาท (70,000 ตรม.) คาดกำไรปี 68 ที่ 5,494 ล้านบาท +20.4%y-y ทำrecord high อีกครั้ง

การเติบโตในระยะยาว 5 ปีตั้งเป้าปี 72 รายได้รวมส่วนแบ่งกำไรที่ 41,900 ล้านบาท เติบโต 2.9 เท่าจากฐานปี 67 คิดเป็น 23.8% CAGR โดยธุรกิจนิคมจะเป็นส่วนผลักดันให้กับธุรกิจอื่นๆ เติบโตตามกัน ควบคู่ไปกับการทำ ESG ในทุกๆ แผนธุรกิจ โดย 1.WHAUP เพิ่มสัดส่วน Renewable และการบำบัดน้ำ (Reclaim Water) เพิ่มขึ้น 2.ขยายธุรกิจ Mobilix (EV car) และ 3.Zero waste ในนิคมฯ ทางฝ่ายฯจึงนำ ESG เข้าไปใน P/E คำนวณ

ประเมินราคาโดยใช้วิธี P/E เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 17.7 เท่า บวกค่าความยั่งยืนของกิจการอีก 2.8% ปรับราคาพื้นฐานขึ้นมาที่ 6.70 บาท คงคำแนะนำ "ซื้อ"

นายอนุชิต เอื้ออารักษ์ นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า WHA มีธุรกิจนิคมฯ เป็นหลีกในการสร้างการเติบโต ปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) รวมถึงยอดขายรอเซ็นสัญญา ซึ่งช่วงหลังสัญญาซื้อขายที่ดินในนิคมฯของ WHA มีจำนวนเฉลี่ย 300 ไร่ที่เป็นจำนวนค่อนข้างใหญ่จำนวนมาก

ทั้งนี้ ในปี 68 WHA ตั้งเป้ายอดขายที่ดิน 2,350 ไร่ แบ่งเป็นในไทย 1,700 ไร่ และเวียดนาม 650 ไร่ มองว่าเป็นการตั้งเป้าแบบ Conservative มีโอกาสปรับเป้ายอดขายขึ้นมาเป็น 2,500-2,600 ไร่ ประกอบกับ บริษัทได้กว้านซื้อที่ที่มีต้นทุนราคาเดิมไว้ ขณะที่บริษัทปรับราคาขายขึ้นทุกปีๆ ละ 5-10% จะทำให้มาร์จิ้นขายที่ดินนิคมฯ ดีขึ้น

อย่างไรก็ดี ในระยะสั้นสิ่งที่น่ากังวลคือผลประกอบการในไตรมาส 4/67 ที่อาจปรับลดลงจากไตรมาส 4/66 (YoY) เพราะยอดโอนที่ดินในไตรมาส 4/67 เหลือ 499 ไร่ เทียบกับไตรมาส 4/66 ที่มียอด 1,150 ไร่ ก็อาจทำให้ราคาหุ้นย่อตัวในช่วงใกล้งบออก

นายอนุชิต กล่าวว่า ในระยะยาว WHA เติบโตไปพร้อมกับ New Economy ที่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับ Data Center , PCB , AI ที่ต้องใช้น้ำและไฟฟ้าสูงขึ้น โดยนิคมฯ ของ WHA ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยผลประกอบการระยะยาวของ WHA มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ได้แรงหนุนจากการเคลื่อนย้ายฐานการลงทุนออกจากจีนมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สะท้อนจากตัวเลข FDI ของจีนที่ปรับลดลง นอกจากนี้ ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจน้ำ ธุรกิจไฟฟ้า ยังมีผลประกอบการดีต่อเนื่อง

คาดการณ์ในปี 68 ว่า WHA จะมีกำไรสุทธิ 5,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปี 67 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 4,747 ล้านบาท โดยให้มูลค่าเหมาะสมอิง Historical PER 10 ปีย้อนหลัง อยู่ที่ 19 เท่า ได้ราคาเหมาะสม 6.90 บาท ให้คำแนะนำการลงทุน outperform

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า WHA แสดงความมั่นใจว่ากำไรธุรกิจหลักจะทำสถิติสูงสุดในปี 67 และปี 68 ปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญปีนี้ ได้แก่ ยอดโอนที่ราคาขาย และอัตรากำไรที่สูงขึ้น , รายได้ค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้น้ำรายใหญ่, S-Curve ใหม่ (Mobilix) และรายได้จากการขายสินทรัพย์ (1.5 พันล้านบาท) บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินแบบอนุรักษ์นิยมที่ 2,350 ไร่ (ขายได้แล้ว 38%) แต่เราเชื่อว่ายังมีอัพไซด์ ราคาหุ้นปรับลดลงไม่สอดคล้องกับกำไรที่จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ"

ผลการดำเนินงานที่ดีของ WHA ได้แก่ ยอดขายที่ดิน 2,565 ไร่ในปีที่แล้ว สูงกว่าเป้าของบริษัทที่ 2,500 ไร่ แต่จะลดลง 7% yoy และต่ำกว่าประมาณการ 2,700 ไร่ของเรา เนื่องจากยอดขายน้อยในเวียดนาม แต่ยอดขายที่ดินในประเทศไทยทำสถิติสูงสุดที่ 2,453 ไร่, กำไรธุรกิจหลักของบริษัทจะทำสถิติสูงสุด ซึ่งหมายความถึงกำไร 1.2 พันล้านบาทในไตรมาส 4/67 (ลดลง yoy แต่เพิ่มขึ้นก้าว กระโดด qoq)และมากกว่า 4.4 พันล้านบาทสำหรับทั้งปี สอดคล้องกับประมาณการปี 67 ของ เรา

ส่วนผลการดำเนินงานที่พลาดเป้า ได้แก่ ยอดเซ็นสัญญาโลจิสติกส์ 167,000 ตร.ม. (เทียบ กับเป้าหมาย 200,000 ตร.ม.) สูงกว่าประมาณการของเราที่ 165,000 ตร.ม.,ยอดขายน้ำเพิ่มขึ้น 37% yoy เป็น 166 ล้าน ลบ.ม. (เทียบกับเป้าหมาย 178 ลบ.ม.); และ (กำลังการผลิตไฟฟ้า 965 MWe ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 1,000MWe เล็กน้อยเนื่องจากการเซ็นสัญญา 39MW ล่าช้า

บริษัทตั้งเป้ากำไรธุรกิจหลักจะทำสถิติสูงสุดอีกครั้งในปี 68 สนับสนุนจาก ยอดโอนที่ดิน 2,070 ไร่ ประกอบกับราคาขายและอัตรากำไรสูงขึ้น (ราคาขายปรับขึ้น 18%) สนับสนุนจาก Backlog จำนวน 1,533 ไร่ ณ สิ้นปี 67, ค่าธรรมเนียมผู้ใช้รายใหญ่ (ศูนย์ข้อมูล) เราคาดหลายร้อยล้านบาท (ยังไม่รวมในประมาณการของเรา) ,รายได้หลายร้อยล้านบาทจาก Mobilix (กลุ่มธุรกิจใหม่) ซึ่งมี EBITDA Margin สูงถึง 80% บริษัทตั้งเป้าปล่อยเช่ารถบรรทุก EV เพิ่มขึ้น 1,370 คันในปี 68 เทียบกับ 330 คันในปี 67 และ กำไรจากการขายสินทรัพย์ให้ WHART (มูลค่าขาย 1.5 พันล้านบาท) โดย WHART จะใช้เงินกู้ทั้งหมด (ไม่ต้องขออนุมัติจากผู้ถือหน่วย)

นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าขายที่ดินปีนี้ 2,350 ไร่ ลดลง 8% yoy แต่ก็มีอัพไซด์ที่จะปรับขึ้น เพราะบริษัทเซ็นสัญญาแล้ว 500 ไร่ในเดือนมกราคม และได้ยอดจองจากกลุ่มธุรกิจศูนย์ข้อมูลอีก 400 ไร่ (คาดว่าจะเซ็นสัญญาในเดือนมีนาคม-เมษายน)

บล.กรุงศรี คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท เราเชื่อว่าภาวะอุตสาหกรรมขาขึ้นจะต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อยหนึ่งหรือสองปี และ S-Curve (Mobilix) ใหม่ของ WHA จะสนับสนุนกำไรเติบโต คงประมาณการกำไรเติบโต 13% สำหรับปี 68 และ 11% สำหรับปี 69 ราคาหุ้นที่ปรับลดลง 10% YTD ไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทจะทำสถิติสูงสุดในปีนี้และปีหน้า

https://youtu.be/8ZrXtybmz-U


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ