นายวิศิษฎ์ อัครวิเนค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า(EGCO)เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่โรงไฟฟ้าระยองเป็นเวลา 50 วันในช่วงไตรมาส 4/51 และยังมีการซ่อมย่อยอีก 20 วันที่จะกระจายไปในแต่ละไตรมาส นอกจากนั้น ยังจะปิดซ่อมย่อยโรงไฟฟ้าขนอม ซึ่งการซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณ 788 ล้านบาท
"การปิดซ่อมบำรุงใหญ่ในไตรมาส 4 อาจจะกระทบต่อรายได้บ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นไปตามแผนการปิดซ่อมบำรุงประจำปี ไม่เกี่ยวกับรายได้และกำไรที่บริษัทได้ตั้งเป้าไว้ล่วงหน้าแล้ว"นายวิศิษฎ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงตั้งเป้ารายได้และกำไรในปีนี้เติบโตจากปีก่อน ราว 10% แม้ว่าในช่วงไตรมาส 1/51 มีรายได้และกำไรสุทธิดีกว่าเป้าหมายเล็กน้อย เนื่องจากโรงไฟฟ้าระยองและโรงไฟฟ้าขนอมสร้างรายได้ที่ดีแม้ว่าจะใกล้หมดอายุสัญญากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ในปี 57 สำหรับโรงไฟฟ้าระยอง และในปี 56 สำหรับโรงไฟฟ้าขนอม
"เรายังคงเป้ารายได้และกำไรโตเฉลี่ยทั้งปี 10% เพราะอาจจะมีบางไตรมาสมีรายได้และกำไรต่ำกว่าเป้า โดยเฉพาะในไตรมาส 4 เป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจไฟฟ้า เราจะ shut down โรงไฟฟ้าระยอง 50 วัน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น น่าจะส่งผลต่อกำไรของเราในช่วงนั้น drop ลงมาเล็กน้อย"นายวิศิษฎ์ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงาน บริษัทมีแผนเข้าร่วมทุนโรงไฟฟ้าในประเทศแถบอาเซียนมากขึ้น โดยระหว่างนี้เตรียมการยื่นซองประมูลโรงไฟฟ้า IPP ในเวียดนามในโครงการ NGHI SON ขนาด 1.2 พันเมกะวัตต์ ในเดือนก.ย.นี้ คาดว่าจะรับทราบผลประมูลได้ในปลายปี 51 แต่ยอมรับว่าโครงการนี้มีคู่แข่งจำนวนมาก ทั้งจากญี่ปุ่น ประเทศแถบตะวันตก
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อหุ้นโครงการ สีหนุวิลล์ ในสัดส่วน 40-50% โดยเป็นโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 255 เมกะวัตต์ หากเข้าซื้อได้จะใช้เงินประมาณ 120-130 ล้านเหรียญ คาดว่าจะรู้ผลภายในสิ้นปีนี้
นายวิศิษฎ กล่าวว่า จากการที่บริษัทเข้าลงทุนในโครงการต่างประเทศมากขึ้น ได้แก่ โครงการน้ำเทิน 2 โครงการน้ำอู โครงการสีหนุวิลล์ และ โครงการ NGHI SON ซึ่งหากทั้งหมดนี้บริษัทได้เข้าร่วมโครงการจะทำให้รายได้จากต่างประเทศเพิ่มสัดส่วนขึ้นมาเป็น 30% ในปี 52
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--