อเบอร์ดีน มองหุ้นอินเดียปรับฐานเป็นจังหวะซื้อสะสม รับโอกาสโตจากเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ไม่กระทบภาษี "ทรัมป์"

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 10, 2025 14:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อเบอร์ดีน มองหุ้นอินเดียปรับฐานเป็นจังหวะซื้อสะสม รับโอกาสโตจากเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ไม่กระทบภาษี

นางสาวพฤกษา เอี่ยมธงทอง Deputy Head of Equities ? Asia Pacific, Asian Equities, abrdn Asia Limited เปิดเผยว่า "อเบอร์ดีน" ยังมีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นอินเดีย และเป็นประเทศที่เผชิญความเสี่ยงค่อนข้างต่ำจากนโยบายทรัมป์ 2.0 ขึ้นภาษีนำเข้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เนื่องจากอินเดียเกินดุลการค้าสหรัฐฯ ต่ำกว่าประเทศในภูมิภาคเอเชียและการส่งออกส่วนใหญ่มาจากบริการต่างๆ โดยเฉพาะบริการด้านไอทีของอินเดีย

"ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจอินเดียเติบโตค่อนข้างสูง GDP ของอินเดียประมาณ 78-80% เกิดจากการขับเคลื่อนภายในประเทศ โดยการส่งออกคิดเป็นประมาณ 22% เท่านั้น (ที่มา: abrdn) ขณะที่จุดแข็งด้านการส่งออกธุรกิจไอที ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์และธุรกิจบริการ ที่ลูกค้าหลักอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจไอทีสหรัฐฯ ก็อยู่ในจุดอ่อนแอ โดยมองว่าถ้าปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้นโยบายหลายอย่างของทรัมป์เข้ามาช่วย จะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของบริษัทสหรัฐฯได้และจะส่งผลบวกต่อบริษัทอินเดียด้วย" นางสาวพฤกษา กล่าว

เศรษฐกิจอินเดียเติบโตแข็งแกร่งในหลายปีที่ผ่านมาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งหลังจากโควิดเริ่มเห็นการเติบโตชะลอตัวลงจากภาคการส่งออกที่ซบเซา แต่ยังเติบโตได้ในระดับสูงและคาดว่าจะเติบโตได้ถึง 8% ในปี 2024 และ 7% ในปี 2025 โดยคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียน(EPS) ในปี 2025 เติบโต 16% จากปี 2024 คาดเติบโต 14% (ที่มา: abrdn)

นางสาวพฤกษา กล่าวว่า สำหรับตลาดหุ้นอินเดียในปีนี้ปรับฐานลงตั้งแต่ช่วงต้นปี มองว่าเกิดจาก Valuation ตลาดหุ้นอินเดียค่อนข้างสูง ประกอบกับ GDP ชะลอตัวลง จากความกังวลความอ่อนแอของการบริโภคในเมืองจากเงินเฟ้อที่สูง โดยเฉพาะหมวดอาหารที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกน้อย จึงกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในภาพรวม แต่แนวโน้มเริ่มดีขึ้น เนื่องจากสิ้นปีที่ผ่านมาปริมาณน้ำฝนในอินเดียกลับมาอยู่ในระดับปกติมากขึ้น จึงมองว่าปัญหาภาคการบริโภคเป็นเพียงแค่ปัญหาชั่วคราว นอกจากนี้ หุ้นอินเดียปรับตัวลงจากการที่นักลงทุนขายทำกำไรบางส่วนหลังตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อหลายปีก่อนจนถึงปัจจุบัน นอกจากตลาดหุ้นที่ร่วงลง เกิดจากความกังวลด้านคุณภาพสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันหลังเกิดโควิดทำให้ตลาดกังวลปัญหาหนี้เสียที่จะกระจายไปในภาคอื่นๆ นอกจากกลุ่มธนาคาร

อย่างไรก็ตาม "อเบอร์ดีน" ยังมองตลาดหุ้นอินเดียน่าสนใจ เนื่องมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการบริโภคนั้นเป็นตัวขับเคลื่อน GDP เป็นหลัก ไม่ใช่การส่งออก ตลอดจนมีการลงทุนภาคเอกชนในระยะเริ่มต้น และการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของการบริโภคในชนบท และมีนโยบายของรัฐบาลที่เป็นมิตรต่อธุรกิจช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกิจและสนับสนุนการเติบโตต่อไปได้

"อเบอร์ดีนยังมีความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นอินเดีย จึงมองการปรับฐานเป็นจังหวะให้กองทุนเข้าไปซื้อหุ้นมากขึ้น ถึงแม้หุ้นอินเดียไม่ได้มีราคาถูกเท่าหุ้นจีน แต่มีราคาถูกกว่าในช่วงที่ผ่านมา โดยอเบอร์ดีนโฟกัสหุ้นของบริษัทที่มีคุณภาพ และเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหลายบริษัทที่เรามองว่าแพงในก่อนหน้านี้ เพื่อโอกาสลงทุนในระยะยาว" นางสาวพฤกษา กล่าว

ก่อนหน้านี้กองทุนอเบอร์ดีนได้เข้าซื้อหุ้น Indian Hotels ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทด้านการบริการที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ซึ่งพร้อมที่จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมโรงแรม Info Edge (อินเดีย) บริษัทอินเทอร์เน็ตในประเทศที่แข็งแกร่ง Pidilite Industries ซึ่งเป็นธุรกิจชั้นนำสำหรับผู้บริโภคและเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นฟูวงจรที่อยู่อาศัย และ Tata Consultancy Services ผู้ให้บริการด้านไอทีชั้นนำที่ได้รับข้อตกลงใหม่

สำหรับกองทุนหุ้นอินเดียของอเบอร์ดีน ได้แก่ กองทุนเปิด อเบอร์ดีน อินเดีย โกรท ฟันด์ (ABIG) กองทุนนี้มีความเสี่ยงระดับ 6 โดยลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลักต่างประเทศชื่อ abrdn SICAV I - Indian Equity Fund Z Acc USD ซึ่งบริหารจัดการโดย abrdn Investments Luxembourg S.A. กองทุนหลักคัดหุ้นอินเดียที่มีโอกาสเติบโตแข็งแกร่งประมาณ 30-50 ตัว ด้วยสไตล์การลงทุนแบบเชิงรุก เปิดโอกาสการลงทุนในหุ้นอินเดียคุณภาพสูง และมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว โดยเน้นลงทุนในบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่สดใสของอินเดีย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ