นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินโดรามา โพลีเมอร์ส(IRP)เชื่อว่า กำไรสุทธิในรูปของเงินบาทของบริษัทปีนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน เนื่องจากวอลุ่มปรับเพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่บริษัทได้เข้าไปซื้อกิจการโรงงานเม็ดพลาสติก PET 2 แห่งที่เนเธอร์แลนด์ และอังกฤษ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 355,000 ตัน/ปี ซึ่งทำให้กำลังการผลิตรวมในปีนี้เพิ่มเป็นประมาณ 8.7 แสนตัน/ปี
แต่รายได้ในรูปเงินบาทปีนี้คงจะปรับลดเป้าลงเหลือ 3.5 หมื่นล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ 3.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากผลกระทบเงินบาทแข็งค่า แต่ในรูปของสกุลดอลลาร์ยังอยู่ในเป้าหมายเดิมที่ 1,200 เหรียญ
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้อาจจะปรับตัวดลงมาอยู่ที่ 9.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 10.9% จากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยเฉพาะราคา PTA ปรับสูงขึ้น 10-11% ขณะที่ต้นทุนโดยรวมเพิ่ม 8%
"การปรับเพิ่มขึ้นดังกล่าวบริษัทไม่สามารถผลักภาระได้เต็มที่เลยอาจทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง" นายดีลิป กล่าว
ขณะที่สเปรดราคาเม็ดพลาสติก PET คาดว่าจะอยู่ที่ 210 เหรียญ/ตัน จากปีก่อนที่อยู่ที่ 210-212 เหรียญ/ตัน จากไตรมาส 1 สเปรดอยู่ที่ 200 เหรียญ/ตัน
"ราคาสเปรดในปีนี้จะขึ้นอยู่กับราคาน้ำมัน หากราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น ก็จะเห็นที่ 210 เหรียญ/ตัน จากปีก่อนที่ 212 เหรียญ/ตัน...ยอมรับว่าการประเมินราคาสเปรดในปีนี้ยาก แต่เท่าที่ดูจากราคาน้ำมันที่ไม่มีทีท่าลด ก็อาจจะทำให้สเปรดในปีนี้คงจะปรับตัวลดลง แต่เท่าที่ดูตอนนี้มีบางโรงงานปิดตัวไป ทำให้มีโอกาสที่ราค PETจะปรับเพิ่มขึ้น ก็อยากให้ติดตามดูใน 8 เดือนที่เหลือ"นายดีลิป กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าอัตราการเติบโตและความต้องการเม็ดพลาสติกจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเื่นื่องทั่วโลกและคาดว่าในปีนี้คาดว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 14.6 ล้านตัน หรือเพิ่ม 7-8% จากปีก่อน
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--