ตลท.เผย Q1/51 บจ.มีกำไรสุทธิรวม 1.52 แสนลบ.โต 33% จาก Q1/50

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 20, 2008 18:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางนงราม วงษ์วานิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทจดทะเบียนในตลท.ไตรมาส 1/51 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนทั้งกำไรสุทธิและยอดขาย เนื่องจากยอดขายรวมที่เพิ่มขึ้น รวมทั้ง กำไรที่มาจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้น
ไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2551 บริษัทจดทะเบียน 455 บริษัท จาก 494 บริษัท รวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน (Non-Compliance: NC) และบริษัทในกลุ่มที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด (Non-performing Group:NPG) มีกำไรสุทธิรวม 152,382 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 33 โดยมีบริษัทที่มีกำไรสุทธิ 384 บริษัท และขาดทุนสุทธิ 71 บริษัท คิดเป็นสัดส่วน 85 ต่อ 15 ในขณะที่ยอดขายรวมเท่ากับ 1,777,957 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32
สำหรับบริษัทในกลุ่ม SET100 มีกำไรสุทธิ 128,785 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เนื่องจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นร้อยละ 54 ในขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 ส่วนบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET50 กำไรสุทธิรวม 118,713 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 40
บริษัทที่มีมูลค่ากำไรสุทธิรวมสูงสุด 5 อันดับแรกคือ บมจ.ปตท. (PTT) บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และ บมจ. ปตท.เคมิคอล (PTTCH)
ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน 8 กลุ่มอุตสาหกรรม(Industry Group)ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่าย อาจถูกเพิกถอน (Non-Compliance:NC)และบริษัทในกลุ่มที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด(Non-Performing Group: NPG)จำนวน 465 บริษัท มีกำไรสุทธิรวม 152,181 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 โดยกลุ่มทรัพยากร มีกำไรสุทธิ 52,859 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10, กลุ่มธุรกิจการเงิน มีกำไรสุทธิ 28,199 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 25
กลุ่มบริการ มีกำไรสุทธิ 17,383 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง มีกำไรสุทธิ 17,249 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14 และกลุ่มเทคโนโลยี มีกำไรสุทธิ 16,683 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 155
กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม มีกำไรสุทธิ 13,146 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 145, กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร มีกำไรสุทธิ 4,760 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 430 หรือ 4.3 เท่า, กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค มีกำไรสุทธิ 1,901 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 34

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ