(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์จากเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด แต่ในปท.มีแรงหนุนปรับเกณฑ์ LTF ใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 13, 2025 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ โดยอาจจะมีแรงกดดันจากการที่รายงานเงินเฟ้อ CPI เดือนม.ค.ของสหรัฐออกมาสูงกว่าคาดเล็กน้อย และถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลาสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาครองเกรสที่ยังคงตรึงดอกเบี้ยต่อ ทำให้เป็นปัจจัยที่กดดันต่อตลาดหุ้น

อย่างไรก็ตามปัจจัยในประเทศจะยังได้ sentiment เชิงบวกหนุนอยู่บ้าง จากข่าวการเตรียมปรับปรุงกองทุน LTF ทำให้แรงขายกองทุน LTF อาจจะชะลอตัวลง และยังมีปัจจัยการเก็งกำไรผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนกลุ่ม Real sector ออกมาหนุนได้ ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาบวกและลบสลับกัน

โดยให้แนวต้าน 1,290-1,295 จุด แนวรับ 1,270-1,275 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (12 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,368.56 จุด ลดลง 225.09 จุด หรือ -0.50%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,051.97 จุด ลดลง 16.53 จุด หรือ -0.27% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,649.95 จุด เพิ่มขึ้น 6.09 จุด หรือ +0.03%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,225.50 จุด เพิ่มขึ้น 261.80 จุด หรือ +0.67% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 21,958.69 จุด เพิ่มขึ้น 100.77 จุด หรือ +0.46% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,343.23 จุด ลดลง 3.16 จุด หรือ -0.09%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ก.พ.) ที่ 1,283.97 จุด เพิ่มขึ้น 13.48 จุด (+1.06%) มูลค่าซื้อขาย 39,035.49 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (11 ก.พ.) 1,029.52 ล้านบาท
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.(12 ก.พ.)ลดลง 1.95 ดอลลาร์ หรือ 2.66% ปิดที่ 71.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 ก.พ.) อยู่ที่ 4.07 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.01 แข็งค่าหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด กดดันเฟดชะลอหั่นดบ.
  • คลังจับเข่าคุยสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางฟื้น "กองทุนรวมหุ้นระยะยาว" หรือ LTF กลับมาอีกครั้ง เพื่อช่วยหนุนตลาดหุ้นไทย ลุ้นระยะถือครองไม่เกิน 5 ปี และสิทธิลดหย่อนภาษีไม่ต่างจากเดิม จับตาได้ข้อสรุปในสัปดาห์นี้
  • "สิริวัฒนภักดี" ผนึก "โสภณพนิช" และ "กลุ่มนิคมโรจนะ" เปิดตัว "อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์" นิคมอุตสาหกรรมยักษ์ครบวงจรกว่า 4,600 ไร่ บนพื้นที่ EEC-สนามบินสุวรรณภูมิ ล่าสุดกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์-ยานยนต์ไฟฟ้า (EV)-ธุรกิจยาและเวชภัณฑ์-ขนส่งและกระจายสินค้า และดาต้าเซ็นเตอร์ เข้าคิวรอเพียบ ฟาก "ปณต สิริวัฒนภักดี" ย้ำเป็นการเชื่อมต่อทำเลทองสู่มอเตอร์เวย์และท่าเรือแหลมฉบัง เหมาะแก่การขยายฐานธุรกิจในอนาคต
  • ครม.ไฟเขียว ลูกหนี้นอนแบงก์ร่วมโครงการ "คุณสู้เราช่วย" ผ่อน 70% ลดดอก 10% หนี้ต่ำ 5,000 จ่าย 10% ปิดจบทันที พร้อมขยายระยะเวลาเข้าร่วมโครงการถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ ออมสินหนุนซอฟต์โลน 5 หมื่นล้านบาท
  • "กองทุนประกันสังคม" ปรับยุทธศาสตร์พอร์ตลงทุนครั้งใหญ่ เพิ่มลงทุน "สินทรัพย์เสี่ยง" หลังผลตอบแทนพุ่ง สัดส่วน ต่างประเทศเป็น 40% ในไทย 60% ตั้งเป้ารีเทิร์นปีนี้แตะ 5% รับสนใจลงทุนตลาด "สหรัฐ-ยุโรปญี่ปุ่น" หวังหนีจุดวิกฤติกองทุนอาจ "เซ็ต ซีโร่" เหลือเงินศูนย์บาทอีก 30 ปี ด้าน "หุ้นไทย" ยันไม่ทิ้ง เน้นปรับกลยุทธ์ "ซื้อมาขายไป" เผยหุ้นตัวไหนมีกำไรขาย-ซื้อใหม่ เพื่อลงทุนที่เหมาะสมกับตลาด
  • นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า จากผลสำรวจ "ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พักแรม เดือน ม.ค.2568" มีผู้ตอบแบบสำรวจจำนวน 109 แห่ง พบว่าปีนี้ธุรกิจโรงแรมส่วนใหญ่กังวลปัจจัย "เศรษฐกิจโลกชะลอตัว" โดยอาจส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยมากที่สุด นอกเหนือจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกชะลอตัวแล้ว ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ยังระบุถึงปัจจัยที่กระทบต่อภาคการท่องเที่ยวไทย รองลงมาคือ ต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งค่าแรง ราคาพลังงาน วัตถุดิบ และการแข่งขันด้านราคา ระหว่างธุรกิจโรงแรมที่รุนแรงขึ้น กดดันต่อการขยายตัวของรายได้ และกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยกว่าคาดการณ์อีกด้วย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • NSL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 43 บาท เรายืนยันคาดการณ์กำไรสุทธิ ไตรมาส 4/67 ที่ 146 ลบ. +8% q-q, +43% y-y ทำจุดสูงสุดใหม่ จากรายได้ที่คาดทำ New High เพราะเป็น high season และโตดีทั้งกลุ่มเบเกอรี่ และ NSL brands (BAW และเริ่มรับรู้รายได้ส่งออกน้ำมะพร้าวแล้ว) ส่วนต้นทุนยังทรงตัว และคุมค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง จบปี 2567 คาดกำไรโต +62% y-y และโตต่อเนื่องในปี 2568 อีก +10% y-y รวมถึงยังมี upside จากการรวมธุรกิจน้ำมะพร้าว ดีลจะแล้วเสร็จไตรมาส 2/68 Valuation ยังค่อนข้างถูก โดยเทรด PER เพียง 13.5 เท่า และให้ Dividend Yield ราว 4.2% ต่อปี
  • BBL (เคจีไอ) เป้าพื้นฐาน 185 บาท ประเมินราคาและ Valuation Laggard กลุ่มธนาคารฯ ราคาหุ้น BBL ยังปรับขึ้นน้อยกว่าหุ้นตัวอื่นในกลุ่มฯ ซึ่งมีแรงเก็งกำไรจากทั้งความคาดหวังการจ่ายปันผลในอัตราที่สูง และวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงที่ยืดยาวออกไปจากที่คาดไว้เดิม ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ + NIM ของ BBL* ดีขึ้นชัดเจน Valuation ไม่แพง PBV 0.53 เท่า และคาดปันผลสำหรับ 2H67 หุ้นละ 6 บาท (Dividend yield 3.9%)
  • TLI (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 13.80 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TLI โดยคาดได้รับประโยชน์เชิงบวกในระยะสั้นจากการปรับเปลี่ยนประกันสุขภาพเป็นแบบ copayment ที่จะเริ่มใช้ในเดือนมีนาคมนี้ซึ่ง TLI มีสัดส่วน rider ประกันสุขภาพราว 10-15%จากการที่ลูกค้ามีการเร่งการซื้อประกันก่อนบังคับใช้กฏใหม่นี้ นอกจากนี้เราคาดบริษัทจะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนมาตรฐานบัญชีเป็น TFRS17 ที่เริ่มในปี 2568 นี้ อีกทั้ง TLI ยังเน้นในการขายสินค้าที่มี VONB margin ในระดับสูงและมีการตั้งเป้าหมายการเติบโตของ VONB ในระดับสองหลักอีกด้วย นอกจากนี้มีโอกาสได้รับ sentiment เชิงบวกจากเงินเฟ้อที่ออกมาสูงกว่าคาดของ US ส่งผลให้ Bond yield ปรับตัวขึ้นในระยะสั้นเช่นกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ