![HENG กางแผนปี 68 รุกขยายสินเชื่อเกษตรโตสู่ 5% ก่อนทะลุ 10% ในปี 69 พร้อมเพิ่มสินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้ารับดีมานด์สูง](/img/files/20250213/iq0e83220d3a1f78e8570941be13160c04.jpg)
นายวิชัย ศุภสาธิตกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล [HENG] เปิดเผยแผนกลยุทธ์ปี 2568 ว่า HENG ตั้งเป้าหมายขยายพอร์ตสินเชื่อคุณภาพ โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายสินเชื่อเกษตรให้เติบโต 5% ในปีนี้ และเติบโตทะลุ 10% ภายในปี 2569 เพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกรและสนับสนุนภาคการเกษตร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสที่ 2 (เมษายน - มิถุนายน) ซึ่งเป็นฤดูกาลเพาะปลูก เกษตรกรมีความต้องการเงินทุน เพื่อใช้ในการเพาะปลูกและบำรุงรักษาผลผลิต บริษัทฯ มองเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของสินเชื่อประเภทนี้ โดยมุ่งเน้นการให้บริการสินเชื่อที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกรและสนับสนุนภาคการเกษตรให้เติบโตอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ HENG ได้เตรียมขยายการให้บริการสินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในเขตเมืองและต่างจังหวัด ซึ่งมีความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ที่มีความต้องการสูงขึ้นเนื่องจากปัญหาด้านมลภาวะทางอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้คน คาดการณ์ว่าสินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและสร้างรายได้ให้บริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง และช่วยให้ประชาชนเข้าถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ยังปรับทำเลที่ตั้งของสาขาในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือบางสาขาไปยังทำเลที่มีศักยภาพ ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ที่มีคุณภาพได้เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันมีจำนวนสาขารวมทั้งหมด 1,018 สาขา
ทั้งนี้ HENG ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ สะท้อนผ่านการได้รับผลการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ระดับ AA จากตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งสูงขึ้นจากปี 2566 ที่อยู่ในระดับ A ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาต่อเนื่องเพื่อสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
"HENG ยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการขยายสินเชื่อคุณภาพ บริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการรักษาวินัยทางการเงิน พร้อมทั้งปรับตัวรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน" นายวิชัย กล่าว
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2567 (มกราคม-ธันวาคม) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,861 ล้านบาท ลดลง 0.60%และกำไรสุทธิ 73 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 422 ล้านบาท หรือลดลง 82.7% จากผลขาดทุนด้านเครดิตทีคาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 857.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 444.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 107.5%
ทั้งนี้ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการนำเทคโนลียีเข้ามาใช้ในกระบวนการทำงาน เพื่อลดความซ้ำซ้อน และการขนส่งเอกสาร รวมทั้งลดการใช้กระดาษ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง 88 ล้านบาท คิดเป็น 7.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนศักยภาพในการบริหารจัดการที่แข็งแกร่ง
ขณะที่พอร์ตสินเชื่อในปี 2567 อยู่ที่ 13,206 ล้านบาท ลดลง 12.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อใหม่ และมุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของการปล่อยสินเชื่อใหม่ ทำให้บริษัทฯ สามารถนำกระแสเงินสดไปชำระเงินกู้จากสถาบันการเงินล่วงหน้า ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) ลดลงจาก 1.9 เท่า ในปี 2566 เป็น 1.5 เท่า ในปี 2567
ทั้งนี้ เพื่อตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานในปี 2567 ในอัตรา 0.0525 บาทต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่านโยบายการจ่ายเงินปันผลที่กำหนดไว้ร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหักทุนสำรองตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 5 มีนาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 2568