บลจ.อีสท์สปริง ส่งกองทุนลงทุนหุ้นเอเชียแปซิฟิกเน้นผันผวนต่ำ ขาย 14-21 ก.พ. 68

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 13, 2025 17:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บลจ.อีสท์สปริง ส่งกองทุนลงทุนหุ้นเอเชียแปซิฟิกเน้นผันผวนต่ำ ขาย 14-21 ก.พ. 68

นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความผันผวน ภาพรวมตลาดเอเชียมียังมีความน่าสนใจน่าลงทุน การนำกลยุทธ์ Asian Low Volatility มาใช้เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยสร้างโอกาสการเติบโตของพอร์ต การกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ที่หลากหลาย และเลือกลงทุนในกองทุนที่มีความผันผวนต่ำเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะกลางถึงยาว ประกอบกับตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) มีการเติบโตของกำไรและระดับมูลค่าที่น่าสนใจ โดยมี Forward P/E อยู่ที่ประมาณ 12 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และหลายประเทศ

บลจ.อีสท์สปริง ส่งกองทุนลงทุนหุ้นเอเชียแปซิฟิกเน้นผันผวนต่ำ ขาย 14-21 ก.พ. 68

ในขณะที่มีคาดการณ์การเติบโตของกำไรปี 2568 ราว 10% สะท้อนถึงโอกาสในการลงทุนของภูมิภาคนี้ (ที่มา: EITH Investment Strategy Team, Bloomberg ณ วันที่ 24 มกราคม 2568)

โดยบลจ.อีสท์สปริง ได้เตรียมเปิดจองกองทุนเปิดอีสท์สปริง Asian Low Volatility Equity-Unhedged (ES-ALOVE-UH) ซึ่งมีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก Eastspring Investments - Asian Low Volatility Equity Fund ในหน่วยลงทุนชนิด Class C ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และไม่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน กองทุนหลัก Eastspring Investments - Asian Low Volatility Equity Fund บริหารจัดการโดย Eastspring Investments (Luxembourg) S.A. เพื่อสร้างผลตอบแทนรวมที่สอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) ด้วยมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท และจะเสนอขายครั้งแรกระหว่าง 14-21 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ ด้วยมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 1 บาท

ทั้งนี้ กองทุนหลัก Eastspring Investments -Asian Low Volatility Equity Fund มีจุดเด่นคือ กระบวนการคัดเลือกหลักทรัพย์โดยใช้ปัจจัยด้านปริมาณ (Quantitative Factor) ที่สามารถเข้าถึงขอบเขตการลงทุนที่กว้างใหญ่กว่า MSCI Asia Ex Japan ช่วยสร้างโอกาสลงทุนได้มากกว่า โดยคัดเลือกหุ้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Alpha) และหุ้นที่มีอัตราการจ่ายปันผลในระดับที่น่าสนใจ โดยปัจจุบันมีการกระจายการลงทุนประมาณ 100-200 ตราสาร และตัดหุ้นที่มีความน่าสนใจน้อยออกไปโดยใช้ Multi -Factor เช่นหุ้นที่มีราคาแพง, ไม่มีคุณภาพ, มีมุมมองเชิงลบของนักวิเคราะห์และปัจจัยทางเทคนิค เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีความผันผวนต่ำภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด เพื่อกระจายการลงทุนไปยังแต่ละกลุ่มประเทศ ธุรกิจ บริษัท ปัจจัยเสี่ยงต่างๆอย่างครอบคลุม รวมทั้งจำกัดต้นทุนการซื้อขายและการถือครองหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำไม่ให้มากเกินไป

นอกจากนี้ ทีมผู้จัดการกองทุนยังเป็นผู้เชี่ยวชาญการบริหารแบบ Quantitative Strategies ด้วยประสบการณ์การลงทุนอย่างยาวนานกว่า 20 ปี มีสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ low volatility ภายใต้การจัดการกว่า 630 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* (ที่มา: Eastspring Investments ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567)

สำหรับพอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักกระจายการลงทุนรายประเทศใน 5 อันดับ ประกอบด้วย 1.จีน 25.2% 2.อินเดีย 21.7% 3.ไต้หวัน 13.4% 4.ออสเตรเลีย 10.9% และ5.มาเลเซีย 6.4% และมีสัดส่วนการลงทุนรายอุตสาหกรรม 5 อันดับแรก 1.กลุ่มการเงิน (Financials) 29.1% 2.กลุ่มไอที 15.4% 3.กลุ่ม Consumer Staples 12.8% 4.กลุ่ม Industrials 10.3% และ 5.กลุ่ม Utilities 8.6%

โดยมีหุ้นรายชื่อหุ้นที่กองทุนหลักถือครองสูงสุด 5 อันดับแรก คือ 1.Oversea Chinese Banking LTD ธนาคารและบริษัทที่ให้บริการทางการเงินที่เก่าแก่ในสิงคโปร์ และใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ,2.Bank of China ธนาคารแห่งประเทศจีน เป็นธนาคารรัฐที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในประเทศจีน, 3.Malayan Banking หนึ่งในกลุ่มธุรกิจการเงินของมาเลเซียขนาดใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในแง่ของจำนวนสาขา , 4.China Yangtze Power B บริษัทพลังงานด้านพลังงานน้ำ สำนักงานใหญ่อยู่ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน และ 5. Radiant Opto-Electronics Corporation ประเทศไต้หวัน เป็นผู้นำในด้านการผลิตโมดูลไฟแบ็คไลท์ LCD ที่มีประสิทธิภาพสูง (ที่มา: บลจ. อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567)


แท็ก เอเชีย   asian   ก.พ.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ