หุ้น KTB บวก 1.67% มาอยู่ที่ 24.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขายหนาแน่น 813.92 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.18 น. โดยเปิดตลาดที่ 24.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 24.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 24.20 บาท
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) คงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น ธนาคารกรุงไทย [KTB] แต่ปรับราคาเป้าหมายเป็น 27.50 บาท หลังประกาศจ่ายเงินปันผลปี 67 ที่ 1.545 บาทต่อหุ้น มากกว่าที่ตลาดคาดไว้เพียง 1.051 บาทต่อหุ้น และมากกว่าที่เราคาดไว้ที่ 1.255 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้น XD วันที่ 16 เม.ย. 25 คิดเป็น Dividend payout ที่ 49% (มากกว่าปี 66 ที่ 33%) และคิดเป็น Dividend yield ที่สูงถึง 6.4% ถือว่าเป็นระดับ Dividend yield ที่เป็น Top tier ของกลุ่มธนาคารที่เฉลี่ยราว 6% โดยระดับ Dividend payout ที่สูงขึ้นมาก ช่วยหนุนให้ ROE มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ที่ 10.30% จากเดิมที่ 10.00% ซึ่งส่งให้ PBV เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.82x จากเดิมที่ 0.74x และทำให้ราคาเป้าหมายมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ราว 3.00 บาท
เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 68 อยู่ที่ 4.6 หมื่นล้านบาท เติบโตได้อีก +6% YoY ขณะที่แนวโน้มกำไรสุทธิ Q1/68 จะเพิ่มขึ้น YoY/QoQ จากสำรองฯที่จะลดลงได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนภาพรวมของ NPL มีแนวโน้มที่ดีกว่ากลุ่มเพราะเน้นการปล่อยสินเชื่อให้ภาครัฐเป็นหลัก
ขณะที่ บล.กรุงศรี มีมุมมอง positive ต่อการประกาศจ่ายปันผลปี 67 ของ KTB ที่ 1.545 บ./หุ้น คิดเป็น dividend yield 6.4% และคิดเป็น dividend payout ratio ที่ 49% จากปี 66 ที่ 33% มากกว่าเราคาดมากที่ 0.94 บ./หุ้น ขึ้น XD วันที่ 16 เม.ย. และจ่ายวันที่ 2 พ.ค.
จากการปรับเพิ่ม dividend payout ratio ของ KTB ส่งผลให้ ROE ปี 68 เพิ่มเป็น 10.24% จากคาดเดิมที่ 10.14% ส่งผลต่อราคาเป้าหมายปรับเป็น 27 บ. เดิม 24 บ. เราคงคำแนะนำ BUY และคงเป็น Top Pick ของกลุ่มธนาคารคู่กับ KBANK (BUY, TP 178 บ.) เพราะ i) positive surprise เรื่องเงินปันผล ii) คาดได้ผลบวกจากงบประมาณภาครัฐต่อเนื่องใน 1H25F iii) กำไรสุทธิปี 68 คาดเติบโต +9%y-y มากกว่ากลุ่มที่ +4%y-y