
นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ที คิว อาร์ [TQR] เปิดเผยแผนการดำเนินธุรกิจปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตที่ระดับ 5-10% จากปีก่อน และมุ่งสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันภัยและประกันภัยต่ออย่างครบวงจร โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ร่วมกับ บมจ.ทีคิวเอ็ม อัลฟา [TQM] และบริษัทประกันภัยชั้นนำ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันและอนาคต ทั้งประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับ ESG โดยเฉพาะในด้านพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ประกันภัยต่อสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Personal Accident and Health) ประกันภัยไซเบอร์ (Cyber), ประกันภัยความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหาร (Directors and Officers) ประกันภัยต่อการก่อการร้ายและภัยทางการเมือง (Political Violence) ประกันภัยที่อยู่อาศัย ซึ่งธุรกิจประกันภัยต่อจะมีบทบาทสำคัญในการกระจายความเสี่ยงให้กับบริษัทประกันภัย
ในส่วนของบริษัทร่วมทุนทั้ง 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท อาร์สแควร์ จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการ (Service) โดยมุ่งเน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและการปรับปรุงคุณภาพของแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการลูกค้า โดยนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในด้าน Face Recognition ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้วจำนวน 4 ราย
สำหรับ บริษัท อัลฟ่าเซค จำกัด โดย TQR ถือหุ้นในสัดส่วน 30% เพื่อประกอบธุรกิจประกันภัยไซเบอร์ มีการพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการให้เป็นระบบอัตโนมัติ (Automatically) และนำเทคโนโลยี AI มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
ส่วนการมองหาโอกาสการขยายธุรกิจไปในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ในรูปแบบการควบรวมกิจการ (M&A) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ ขณะนี้ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจในระยะยาวและสร้างความยั่งยืนให้กับบริษัทฯ
ภาพผลการดำเนินงานในปี 67 มีรายได้รวม 258.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.60% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 249.93 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 100.25 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบทั่วไป (Traditional Business) และธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) รับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง
"ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเป็นปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจประกันภัยและประกันภัยต่อ จากการเผชิญกับความเสี่ยงและข้อจำกัดต่าง ๆ ทั้งความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ความยืดเยื้อของสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาค การแข่งขันด้านราคาสินค้าจากต่างประเทศ ภาวะหนี้สินครัวเรือนไทยและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง นำไปสู่มาตรการการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น ความผันผวนในภาคการเกษตร ความแปรปรวนในเรื่องของสภาพภูมิอากาศ สังคมและสิ่งแวดล้อม
แต่ด้วยศักยภาพของ TQR สามารถปรับกลยุทธ์ บริหารความเสี่ยงได้อย่างดี ปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีและการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการของคู่ค้าและลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ทำรายได้และกำไรออกมาได้ตามเป้าหมาย" นายชนะพันธุ์ กล่าว