สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (17 - 21 กุมภาพันธ์ 2568) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 391,808 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 78,362 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 21% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 52% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 205,492 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาล ที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 148,156 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 18,097 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38% และ 5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB25DA (อายุ .8 ปี) LB346A (อายุ 9.3 ปี) และ LB28DA (อายุ 3.8 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 20,958 ล้านบาท 10,103 ล้านบาท และ 9,662 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท รุ่น WHART282A (A) มูลค่าการซื้อขาย 2,270 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) รุ่น CPN298A (AA) มูลค่าการซื้อขาย 607 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รุ่น FPT282B (A) มูลค่าการซื้อขาย 540 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเคลื่อนไหวในกรอบประมาณ 1-3 bps. ด้านปัจจัยในประเทศ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานเศรษฐกิจไทยปี 67 ขยายตัว 2.5% และคงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 68 เติบโตที่ระดับ 2.3-3.3% โดยมีค่ากลางที่ 2.8% โดยรวมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และความเสี่ยงจากนโยบายการค้าโลก ขณะที่กระทรวงการคลังโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ดำเนินธุรกรรม แลกเปลี่ยนพันธบัตร (E-Switching) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 2 ครบวงเงิน 25,000 ล้านบาท โดยมี Source bonds จำนวน 1 รุ่น ได้แก่ LB25DA ขณะที่มี Destination bonds จำนวน 6 รุ่น ได้แก่ LB29NA, LB353A, LB456A, LBA506A, LB556A, และ LB726A ด้านปัจจัยต่างประเทศ รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันที่ 28-29 ม.ค. ระบุว่า เฟดจำเป็นต้องเห็นเงินเฟ้อชะลอตัวลงอีก ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม และแสดงความกังวลต่อผลกระทบจากมาตรการกำแพงภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สัปดาห์ที่ผ่านมา (17 - 21 กุมภาพันธ์ 2568) กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 2,463 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิ ในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 3,951 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 1,488 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price Index) เปลี่ยนเป็น ดัชนีหุ้นกู้เอกชน(MTM Corp Bond Gross Price Index) ตั้งแต่ ม.ค. 2565
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี
(17 - 21 ก.พ. 68) (10 - 14 ก.พ. 68) (%) (1 ม.ค. - 21 ก.พ. 68)
มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 391,808.01 324,328.56 20.81% 2,984,627.85
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 78,361.60 81,082.14 -3.36% 82,906.33
ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 107.76 107.59 0.16%
ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (MTM Corp Bond Gross Price Index) 107.36 107.29 0.07%
เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --%
ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี
สัปดาห์นี้ (21 ก.พ. 68) 2.07 2.07 2.06 2.02 2.1 2.28 2.49 2.84
สัปดาห์ก่อนหน้า (14 ก.พ. 68) 2.05 2.06 2.06 2.05 2.12 2.29 2.51 2.86
เปลี่ยนแปลง (basis point) 2 1 0 -3 -2 -1 -2 -2