โบรกเชียร์หุ้น บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน [AMATA] เก็งงบ 4/67 เติบโตแข็งแกร่ง คาดกำไร All Time High เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากยอดโอนที่ดินที่ทำสถิติใหม่ โดยเฉพาะจากกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์จีนและไต้หวัน รวมถึงเริ่มมีดีมานด์จาก Data Center เข้ามาเสริม ในปี 68 ยังมีโอกาสปรับเป้ายอดขายที่ดิน ปรับเพิ่มราคาที่ดิน หนุนผลประกอบการ
นอกจากนี้ ปัจจัยบวกจาก FDI ที่แข็งแกร่งและการย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังไทยและเวียดนามจะเป็นแรงหนุนต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) อินโนเวสท์เอ็กซ์ ซื้อ 36.10 กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ซื้อ 35.00 กสิกรไทย ซื้อ 34.00 ดีบีเอส วิคเคอร์ส ซื้อ 34.00 เคจีไอ ซื้อ 34.00 ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 34.00 โกลเบล็ก ซื้อ 34.00 หยวนต้า ซื้อ 33.50 บัวหลวง ซื้อ 32.00 +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ระบุว่า มีมุมมองบวกต่อผลประกอบการของ AMATA ในไตรมาส 4/67 ยอดโอนที่ดินสูงสุดของปี และคาดว่าโมเมนตัมดังกล่าวจะยังอยู่ต่อไปในปี 68 ที่มียอด Backlog แล้วราว 2.12 หมื่นล้านบาท อีกทั้งราคาหุ้นมี Upside 38% จึงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 34 บาท ทั้งนี้คาดว่า AMATA จะรายงานกำไรไตรมาส 4/67 ที่ 832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% YoY และ 9% QoQ โดยได้แรงหนุนจากยอดโอนที่ดินที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1,147 ไร่ แบ่งในไทย 825 ไร่ และเวียดนาม 322 ไร่ ลูกค้าส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์จากประเทศจีนและไต้หวันราว 75% โดยเริ่มขายที่ดินให้ลูกค้ากลุ่ม Data Center แล้ว ขณะที่คาดว่า GPM จะอ่อนตัวลงจากไตรมาส 3/67 ที่ 38.3% เนื่องจากการขายที่ดินในเวียดนามอัตรากำไรต่ำกว่าไทย ทั้งนี้ บริษัทรายงานกำไร 9 เดือนปี 67 ที่ 1,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% YoY ขณะที่ผู้บริหารตั้งเป้าปี 68 ยอดโอนที่ดินราว 1,800-2,000 ไร่ โดยแบ่งในไทย 1,500 ไร่ และเวียดนาม 500 ไร่ ปัจจุบันมี Backlog อยู่ที่ 2.12 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะโอนและรับรู้รายได้ 50% ในปี 68 นอกจากนี้ มีแผนปรับขึ้นราคาขายที่ดินอีก 5-10% เป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการเพิ่มเติม รวมทั้งยังมีปัจจัยบวกจากสงครามการค้า ทำให้มีดีมานด์ โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการจีนและไต้หวันย้ายฐานผลิตมายังไทยเพิ่มขึ้น ประกอบกับ เริ่มมีผู้ประกอบการด้าน Data Center เข้ามาติดต่อ มองปี 68 มีปัจจัยเสี่ยงค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงคือพื้นที่เวียดนามที่มีปัญหาเรื่องที่ดิน อาจทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า AMATA รายงานยอดขายที่ดินไตรมาส 4/67 จำนวน 1,010 ไร่ เพิ่มขึ้น 6% QoQ และ 55% YoY โดยแบ่งเป็น 688 ไร่ในไทย และ 322 ไร่ในเวียดนาม และยอดขายทั้งปี 67 มากกว่า 3 พันไร่ เพิ่มขึ้น 63% YoY ทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสและรายปี รวมถึงสูงสุดในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ส่วนยอดโอนที่ดินเติบโตเด่นเช่นกัน โดยไตรมาส 4/67 ทำการโอนส่งมอบได้ถึง 1,147 ไร่ เพิ่มขึ้น 154% QoQ และ 279% YoY แบ่งเป็น 825 ไร่ในไทย และ 322 ไร่ในเวียดนาม และทั้งปี 67 ทำได้กว่า 1.9 พันไร่ เพิ่มขึ้น 143% YoY เราคาดกำไรปกติไตรมาส 4/67 ที่ 1,186 ล้านบาท เติบโต 33% QoQ และ 72% YoY จากการโอนที่ดินเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดมากกว่า 1.1 พันไร่ และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เพิ่มขึ้นคาดที่ 35.6% จาก Product Mix สัดส่วนรายได้กลุ่มนิคมฯ เพิ่มขึ้น หากไตรมาส 4/67 ใกล้เคียงที่เราคาด ประมาณการกำไรปกติปี 67 ของเรามี Upside 19% บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินปี 68 แบบอนุรักษนิยมใกล้เคียงกับเป้าปี 67 ตอนต้นปีที่ 1.8 - 2.0 พันไร่ (ใกล้เคียงประมาณการเราที่ 2.0 พันไร่) และมีโอกาสปรับขึ้นระหว่างปีเช่นเดียวกัน เราคงประมาณการกำไรปี 68 คาดที่ 2,649 ล้านบาท เติบโต 16% YoY โดยสิ้น ไตรมาส 4/67 บริษัทมียอด Backlog ทำสถิติสูงสุดใหม่ 2.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นในไทย 1.9 หมื่นล้านบาท และเวียดนาม 1.8 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดจะสามารถโอน Backlog ในไทยได้อย่างน้อย 50% ขณะที่ในเวียดนามคาดจะได้เห็นการโอนปี 69 นอกจากนี้ มองปัญหาภูมิรัฐศาสตร์สหรัฐ-จีน ยังเป็นแรงหนุนสำคัญทำให้ผู้ประกอบการหาที่ตั้งฐานการผลิตนอกประเทศจีน เพื่อจำกัดผลประโยชน์ห่วงโซ่อุปทานและการดำเนินงานน้อยที่สุด ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในประเทศทางเลือกที่ได้รับความเชื่อมั่นและถูกเลือกเป็นจุดหมายในการลงทุน สะท้อนจากยอดยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ปี 67 อยู่ที่ 1.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% YoY แบ่งเป็นยอดยื่นขอจากต่างชาติ (FDI) ที่ 8.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% YoY เป็น 73% ของยอดรวม โดยต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 3 อันดับแรก ได้แก่ สิงคโปร์ จีน และฮ่องกง ส่วนอุตาหกรรมที่ลงทุนสุงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ (PCB, Semiconductor), ดิจิทัล (Data Center, Cloud Service) และยานยนต์ เราคาด Presales ปี 68 ของ AMATA ลดลง YoY จากฐานสูง อย่างไรก็ดี คาดอยู่ระดับสูงมากกว่าช่วงก่อน Covid-19 มากกว่า 2 เท่า ตามอุปสงค์ที่ยังแข็งแกร่ง คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท จากแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/67 โดดเด่น ไตรมาส 1/68 คาดเห็นการเติบโต YoY และทั้งปี 68 คาดทำ New High ต่อเนื่อง หนุนจาก Backlog สิ้นปี 67 หนาแน่นมูลค่าเกือบ 2 เท่าของปี 66 ด้าน บล.บัวหลวง ปรับเพิ่มคำแนะนำของ AMATA เป็น "ซื้อเก็งกำไร" คาดการณ์ผลประกอบการที่น่าประทับใจในไตรมาส 4/67 และการเติบโตที่แข็งแกร่งในปี 68 หนุนจากอุปสงค์ FDI (การลงทุนจากต่างประเทศ) การเติบโตของดาต้าเซนเตอร์และคลัสเตอร์คลาวด์ในนิคมอุตสาหกรรมไทยจะหนุนการเติบโตของยอดขายและกำไรในระยะกลาง เราปรับเพิ่มประมาณการปี 68 ยอดจองซื้อที่ดินจาก 1,500 ไร่ เป็น 2,000 ไร่ และยอดโอนที่ดินจาก 1,300 ไร่เป็น 1,800 ไร่ ราคาขายที่ดินคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5-10% จากอุปสงค์ FDI แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทอิเล็กทรอนิกส์จากจีนและไต้หวัน อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งที่ 60-65% ในชลบุรีและ 45-50% ในระยอง เมื่อมองไปข้างหน้า ดาต้าเซนเตอร์จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ ซึ่งต้องการพื้นที่ 50-100 ไร่สำหรับการตั้งค่ามาตรฐานและ 300-400 ไร่ สำหรับดาต้าเซนเตอร์ขนาดใหญ่ โครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าและแหล่งน้ำที่มีอยู่ของ AMATA ทำให้มีความได้เปรียบในการพัฒนาโครงการเหล่านี้ กำไรหลักในไตรมาส 4/67 คาดไว้ที่ 1,488 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129% YoY และ 108% QoQ หนุนจากยอดโอนที่ดินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 1,147 ไร่ (825 ไร่ในประเทศไทยและ 322 ไร่ในเวียดนาม) ยอดจองซื้อที่ดินที่แข็งแกร่งในไตรมาส 4/67 ที่ 1,010 ไร่ (688 ไร่ในประเทศไทยและ 322 ไร่ในเวียดนาม) ยิ่งหนุนกำไรที่แข็งแกร่งของ AMATA ในปี 68 ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักในปี 68 ขึ้น 17% ไปเป็น 3,111 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5% YoY) และปรับราคาหมายเป้าสิ้นปี 68 จาก 30 บาทเป็น 32 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 16% นับตั้งแต่เราเปลี่ยนคำแนะนำเป็น "ถือ" ราคาปัจจุบันเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ ดังนั้นเราจึงปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อเก็งกำไร" เพื่อคาดการณ์อัพไซด์ในอนาคต ทั้งนี้การกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์ และนโยบายปกป้องการค้ากำลังเร่งการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทยและเวียดนาม เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ พยายามหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรของสหรัฐ นโยบายนี้กำลังหนุนการไหลเข้าของ FDI เสริมสร้างซัพพลายในภูมิภาค และกระตุ้นการเติบโตทางอุตสาหกรรม สำหรับประเด็นด้านกฎระเบียบ ภาษีขั้นต่ำระดับโลก (GMT) ไม่ใช่ปัญหาสำคัญสำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ของ AMATA โดยบางรายได้เตรียมตัวเพื่อปฏิบัติตามแล้ว ลดความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น ยอดขายที่ดินที่แข็งแกร่ง ความสนใจของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น และการมีอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ที่มากขึ้น กำลังส่งผลดีต่อ AMATA และช่วยพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรมและดิจิทัลของประเทศไทย