นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ [GULF] เปิดเผยถึงความคืบหน้าการควบรวมกิจการกับ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ [INTUCH] ซึ่งการดำเนินการยังเป็นไปตามแผน ซึ่ง GULF และ INTUCH จะหยุดการซื้อขายหุ้นของบริษัทเป็นระยะเวลา 9 วันทำการ 21 มี.ค. ? 2 เม.ย. และ NewCo จะกลับมาซื้อขาย วันที่ 3 เม.ย. 68 โดยใช้ชื่อ บมจ.กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ หรือ Gulf Development Public Company Limited และใช้ชื่อย่อ GULF ในการซื้อขายเช่นเดิม
ทั้งนี้ ราคาซื้อขายหุ้น NewCo หลังกลับมาเทรดจะขึ้นอยู่กับดีมานด์ซัพพลายในตลาด บริษัทไม่สามารถระบุได้ ด้านนโยบายการจ่ายปันผลหลังจากการควบรวม ขึ้นอยู่กับมติคณะกรรมการชุดใหม่ของบริษัทใหม่ ซึ่งบริษัทมีแผนการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าเดิมที่จ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 30%ของกำไรสุทธิ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแผนการลงทุนในอนาคต หรือกระแสเงินสดที่เข้ามา
นอกจากนี้สำหรับแผนการเติบโตของบริษัทใหม่ในปี 68 คาดว่าจะเติบโต 25-30% ซึ่งมองว่าในปีถัดไปจะมีการเติบโตต่อเนื่อง เพราะจะโอกาสเติบโตใหม่ ๆ เข้ามา โดยการควบรวมครั้งนี้จะทำให้บริษัทใหม่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น โดย DE ratio คาดว่าจะต่ำลงจาก 1.8 เท่าเป็น 0.8 เท่า และยังเป็นการกระจายความเสี่ยงรายได้ และกำไรของกลุ่มธุรกิจเพื่อเป็นการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งอนาคตคาดว่ากำไรประมาณ 60% มาจากธุรกิจพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนอีก 40% จากธุรกิจดิจิทัลซึ่งรวมถึงการลงทุนใน บมจ.แอดวานซ์ อินโปร์ เซอร์วิส [ADVANC] ด้วย
ขณะที่แผน 5 ปี (ปี 68-72) ของ GULF ตั้งงบลงทุน 90,000 ล้านบาท โดยในปี 68 บริษัทวางงบลงทุนที่ 23,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นลงทุนพลังงานหมุนเวียน 70% ลงทุนธุรกิจดิจิทัล 20% และธุรกิจก๊าซ 10% ซึ่งแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดจากโครงการที่เปิดดำเนินการ การออกหุ้นกู้ และกู้ยืมจากสถาบันการเงิน