นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มากุโระ กรุ๊ป [MAGURO] เปิดเผยว่าในปี 68 มีแผนจะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงเป้าหมายจะมีรายได้รวมเติบโต 30% จากปี 67 ด้วยการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องและระมัดระวัง โดยบริษัทมีแผนจะเปิดร้านหมูทอด Tonkatsu Aoki เพิ่มอีก 4 สาขาในไตรมาส 1 และ 2/68 หลังจากสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ประสบความสำเร็จอย่างสูงเกินความคาด และรายได้ต่อบิลค่อนข้างสูง นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดร้านใหม่เพิ่มอีก 2 แบรนด์ เพื่อขยายฐานรายได้ ขยายสู่เซ็กเม้นท์ใหม่ และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด
ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มสำหรับ ร้าน Maguro และ Hitori Shabu อย่างต่อเนื่องเพือรองรับลูกค้ากลุ่มพรีเมียมแมส โดยล่าสุดได้เปิดร้าน Hitori Shabu สาขาพระราม 9 ซึ่งได้รับการต้อนรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และบริษัทยังเน้นการตลาดที่มีความแปลกใหม่ การจัดโปรโมชันเมนูพิเศษทั้งในแง่ของวัตถุดิบใหม่ รสชาติใหม่ที่หลากหลาย และในแง่ของขนาด (portion size menu) และราคาที่หลากหลายรองรับทุกความต้องการของผู้บริโภค
สำหรับผลการดำเนินงานปี 67 มีรายได้รวม 1,378.2 ล้านบาท เติบโต 32% จาก 1,046 ล้านบาทในปี 66 และมีกำไรสุทธิ 96.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.3% จากกำไรสุทธิ 72.5 ล้านบาทในปีก่อน นับว่าประสบความสำเร็จเกินเป้า โดยเฉพาะไตรมาส 4/67 รายได้เติบโต 12.4% เป็น 399.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 34.3 ล้านบาท เติบโต 16.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/67
ถึงแม้ว่าปี 67จะเป็นปีที่ท้าทายเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวตามสำหรับแบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อในระดับกลาง แต่ในภาพรวมบริษัทยังคงรักษาการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิ ด้วยการดำเนินแผนธุรกิจที่กระตุ้นยอดขายร้านเดิม (SSSG) สร้างยอดขายเพิ่มจากการขยายสาขา และเน้นการทำตลาดแบรนด์พรีเมียมที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ ซึ่งสามารถทำกำไรสุทธิ (Margin) ได้สูงกว่า รวมถึงใช้กลยุทธ์การบริหารต้นทุน (Cost Control) อย่างมีประสิทธิภาพ