นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะมีการย่อตัวลงตามตลาดเพื่อนบ้าน ทั้งดาวโจนส์และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในสหรัฐฯมากขึ้น ภายหลังจากที่ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)ของสหรัฐฯออกมาสูงกว่าที่ตลาดฯคาดการณ์ไว้
แต่อย่างไรก็ดี การที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่องเชื่อว่าจะช่วยพยุงตลาดฯไว้ได้ อีกทั้งคาดว่าตลาดฯยังได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานภายหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูง
สำหรับปัจจัยภายในประเทศในวันนี้ก็จะการประชุมกนง.ซึ่งจะพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ย โดยตลาดฯคาดการณ์ว่าจะมีการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ก็ยังไม่ได้มีอะไรเป็นที่น่ากังวล แต่ก็ควรจะจับตาไปเรื่อย ๆ
พร้อมให้แนวรับ 870-865 จุด แนวต้าน 880, 885 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(20 พ.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,828.68 จุด ลดลง 199.48 จุด(-1.53%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,413.40 จุด ลดลง 13.23 จุด(-0.93%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,492.26 จุด ลดลง 23.83 จุด (-0.95%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,417.61 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 129.07 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.02 ดอลลาร์หรือ 1.59%
- น้ำมันตลาดโลกพุ่งทำสถิติใหม่แตะ 129 ดอลลาร์ คลังเผยเตรียมออกแพ็คเกจมาตรการประหยัดพลังงาน จะเป็นมาตรการแรกที่ดำเนินการได้ ด้านราคาดีเซลสร้างสถิติใหม่ 36.44 บาทต่อลิตร หลังเอสโซ่ประกาศขึ้นพรวด 70 สตางค์ต่อลิตร
- พปช.ไม่สนเสียงค้านเดินหน้ายื่นญัตติแก้ไข รธน.วันนี้ พร้อมพ่วงร่างของ คพปร.ไปด้วย โวมี ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ว.ลงชื่อเพียบ แต่ไม่มี กก.บห.พปช.หวั่นถูกยื่นถอดถอน “ชูศักดิ์”อ้างเป็นเรื่องสภ ทำตามม. 291 ไม่เกี่ยวรัฐ ขอกลุ่มค้านเคารพกติกา ด้านพันธมิตรฯ นัดประชุมด่วนกำหนดท่าทีวันนี้ “สุริยะใส”ระบุถ้ายื่นแก้ไข ชุมนุมใหญ่พร้อมล่าชื่อถอดถอนทันที เชื่อรัฐบาลไปไม่รอด จึงต้องรีบดำเนินการส่วน ชท.งง พปช.ยื่นแก้รธน.ไม่ปรึกษา “เจิมศักดิ์” เผย รธน.ปี 40 ข้อเสียเพียบ ขู่เจอถอดถอนแน่
- คณะรัฐมนตรี เห็นชอบและมอบอำนาจให้ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายการขนส่งและจราจร(สนข.) กระทรวงคมนาคม ลงนามบันทึกความเข้าใจการให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าจาก บริษัท ดูไบ เวิลด์ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เพื่อศึกษาความเหมาะสมแนวทางการพัฒนาท่าเรือฝั่งทะเลอันดามัน และสะพานเศรษฐกิจเชื่อมโยงท่าเรือฝั่งอ่าวไทย(โครงการแลนด์บริดจ์)
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบยุทธศาสตร์การจัดสรรวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 จำนวน 1.835 ล้านล้านบาท และมีรายได้จำนวน 1.585 ล้านล้านบาท ส่งผลให้เป็นการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุล 2.495 แสนล้านบาท
- ตลาดหลักทรัพย์โชว์ไตรมาสแรกบริษัทจดทะเบียนกำไรกว่า 1.52 แสนล้านบาท โตเพิ่ม 33% ส่วนยอดขายรวม 1.77 ล้านล้านบาท นำโดยกลุ่มพลังงาน-แบงก์พาณิชย์และกลุ่มบริการ ผลจากยอดขายเพิ่มและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หลังบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มเกษตร-อาหารรับอานิสงส์ราคาสินค้าเกษตร-ข้าวพุ่งดันกำไรโตพรวด 430%
- แบงก์ชาติชี้ไตรมาสแรกสินเชื่อธุรกิจขยายตัวถึง 5.5% จากปีก่อน สอดคล้องกับการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ ส่งผลสินเชื่อรวมขยายตัว 7.3% ขณะที่สินเชื่ออุปโภคบริโภคขยายตัวชะลอลง ผลจากน้ำมันแพง-ค่าครองชีพพุ่งฉุดกำลังซื้อหดและมีสัดส่วนเอ็นพีแอลทรงตัว สวนทางสินเชื่อประเภทอื่นที่เอ็นพีแอลปรับลดลงต่อเนื่อง
- นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัย เศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา แข็งค่าขึ้นมาจากวันศุกร์ที่ผ่านมาถึง 0.68% ปัจจัยหลักน่าจะเกิดจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เทขายเงินเหรียญสหรัฐออกมาเพื่อถือครองเงินบาท ซึ่งเป็นทางหนึ่งในการสกัดเงินเฟ้อที่สูงให้ปรับลดลงมา
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--