นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟลอยด์ [FLOYD] กล่าวว่า สำหรับปี 68 บริษัทฯ จะเดินหน้าธุรกิจด้วยกลยุทธ์ "Balance Growth & Safety" ได้แก่ 1.Balance บริษัทฯ จะรักษาระดับความแข็งแกร่งด้านการเงินให้มีความมั่นคง สามารถเดินหน้าทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพสูงสุด 2.Growth บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มอาคารพาณิชยกรรม, กลุ่มที่พักอาศัยและโรงแรม และกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน และ 3.Safety บริษัทฯ มุ่งเน้นสร้างความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน ทั้งกับพนักงานและโครงการก่อสร้างต่างๆให้อยู่ในระดับมาตรฐานความปลอดภัย ควบคู่กับการมองหาโอกาสและประมูลงานใหม่ๆ ที่ครอบคลุมทั้งงานก่อสร้างภาครัฐและภาคเอกชน
ถึงแม้ว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมก่อสร้างในปีนี้ จะยังคงต้องเผชิญกับความท้าท้าย กับแรงกดดันหลายด้าน อีกทั้งต้นทุนก่อสร้างยังอยู่ในระดับสูง ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องทางการเงิน และแรงกดดันของการปล่อย CO2 ที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างต้องปรับกลยุทธ์รับมือ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และควบคุมต้นทุนก่อสร้าง ควบคู่กับการบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงิน พร้อมด้วยการมองหาแนวทางจัดการกับการลดการปล่อย CO2 ด้วยการหาพันธมิตรวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแนวทางที่ต้องดำเนินไปควบคู่กับการทำธุรกิจวิศวกรรมประกอบอาคาร เพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าประมูลงาน สร้างรายได้ และตอบโจทย์ด้านอาคารรักษ์โลกในปัจจุบัน
" FLOYD มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน โดยเราดำเนินธุรกิจแบบให้ความสำคัญกับลูกค้า ใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด และให้ความสำคัญกับคุณภาพและมาตรฐานในทุกงานก่อสร้าง รวมถึงควบคุมบริหารจัดการภายใต้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปี 68 FLOYD ยังคงรักษามาตรฐานและบริการ เดินหน้า ประมูลงานใหม่เข้าพอร์ตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มงานอาคารพาณิชยกรรม, กลุ่มที่พักอาศัยและโรงแรม รวมถึงกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน เติม Backlog แน่น ดันพอร์ตรายได้โตไม่ต่ำกว่า ปี 67 " นายทศพรกล่าว
ขณะที่ผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 67 เป็นผลมาจากความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ในกลุ่มอาคารพักอาศัยและห้างสรรพสินค้า ซึ่งต่อเนื่องมาจากไตรมาส 3/67 ขณะที่งวดปี 67 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการงานวิศวกรรมประกอบอาคาร จำนวน 627.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 229.09 ล้านบาท หรือคิดเป็น 57.46% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทำกำไรสุทธิ 46.63 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 123% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นเกิดจากความคืบหน้าของงานในกลุ่มโครงการอาคารสำนักงานและอาคารพักอาศัยซึ่งต่อเนื่องจากปีก่อน และความคืบหน้ากลุ่มโครงการห้างสรรพสินค้า ที่เริ่มโครงการในไตรมาส 2/67
ด้านบอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด 0.08 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินปันผลจำนวนทั้งสิ้น 35,555,429.12 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 (Record Date) และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2568