สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (24 - 28 กุมภาพันธ์ 2568) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 408,295 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 81,659 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 4% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 46% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 186,163 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาล ที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 167,913 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 15,190 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41% และ 4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB29NA (อายุ 4.7 ปี) LB436A (อายุ 18.3 ปี) และ LB346A (อายุ 9.3 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 27,270 ล้านบาท 16,564 ล้านบาท และ 12,808 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รุ่น TBEV289A (AA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 1,336 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด รุ่น DTN274A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 846 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รุ่น BANPU25NA (Non-Rated) มูลค่าการซื้อขาย 653 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลง 8-12 bps.หลังจากผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 26 ก.พ. มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 2.25% เป็น 2.00% ต่อปี โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ แม้ว่าเศรษฐกิจจะได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ ภายในประเทศและการท่องเที่ยว ด้านปัจจัยต่างประเทศ รายงานตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ ประจำไตรมาส 4/2567 ขยายตัว 2.3% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่เอสแอนด์พี โกลบอล รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ประจำเดือนก.พ.ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.4 ต่ำกว่าระดับ 52.7 ในเดือนม.ค. จากการหดตัวของภาคบริการ
สัปดาห์ที่ผ่านมา (24 - 28 กุมภาพันธ์ 2568) กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 522 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิ ในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 678 ล้านบาท และขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 175 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 1,025 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price Index) เปลี่ยนเป็น ดัชนีหุ้นกู้เอกชน(MTM Corp Bond Gross Price Index) ตั้งแต่ ม.ค. 2565
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (24 - 28 ก.พ. 68) (17 - 21 ก.พ. 68) (%) (1 ม.ค. - 28 ก.พ. 68) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 408,294.56 391,808.01 4.21% 3,392,922.41 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 81,658.91 78,361.60 4.21% 82,754.21 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 108.68 107.76 0.85% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (MTM Corp Bond Gross Price Index) 107.69 107.36 0.31% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (28 ก.พ. 68) 1.98 1.98 1.96 1.9 1.99 2.18 2.39 2.76 สัปดาห์ก่อนหน้า (21 ก.พ. 68) 2.07 2.07 2.06 2.02 2.1 2.28 2.49 2.84 เปลี่ยนแปลง (basis point) -9 -9 -10 -12 -11 -10 -10 -8