อสังหาฯใหญ่ทุ่มเปิดโครงการใหม่ชิงเจ้าตลาด หลังปี 67 เผชิญแรงต้าน SPALI คว้าแชมป์กำไร-SIRI โกยรายได้สูงสุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 4, 2025 14:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อสังหาฯใหญ่ทุ่มเปิดโครงการใหม่ชิงเจ้าตลาด หลังปี 67 เผชิญแรงต้าน SPALI คว้าแชมป์กำไร-SIRI โกยรายได้สูงสุด

นายสุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย มองว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์มีรายได้รวมในปี 67 ลดลงมากกว่า 15% เมื่อเทียบกับปี 66 แต่ก็มีผู้ประกอบการบางรายเช่นกันที่มีรายได้เพิ่มขึ้น หรือลดลงจากปีก่อนหน้านี้ไม่มาก หรือลดลงราว 2?3% เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังมีกำลังซื้ออยู่ในตลาดต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการรายใดจะเข้าถึงและสามารถดึงดูดให้ผู้ซื้อจองและโอนกรมสิทธิ์ได้มากกว่ากัน

สำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้มากที่สุดในปี 67 ใน 5 อันดับแรก คือ บมจ.แสนสิริ [SIRI] มีรายได้รวมทั้งปี 67 ประมาณ 39,204 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 66 ราว 2% ตามมาด้วยบมจ.เอพี (ไทยแลนด์) [AP] มีรายได้รวม 37,460 ล้านบาท และบมจ.ศุภาลัย [SPALI] มีรายได้ 31,985 ล้านบาท ส่วนบมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ [LH] มีรายได้รวม 28,151 ล้านบาท และบมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง [PSH] มีรายได้รวม 20,996 ล้านบาท

ทั้ง 5 อันดับแรกนี้ ครองผู้นำตลาดที่อยู่อาศัยมาต่อเนื่องทั้งรายได้และยอดขาย โดยผู้ประกอบการบางรายอาจเคยครองตำแหน่ง อันดับที่ 1 หรือ อันดับ 2 ต่อเนื่องมายาวนาน แต่ด้วยภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป รวมไปถึงโฟกัสของผู้ประกอบการที่เปลี่ยนไปมีผลต่อรายได้รวมเช่นกัน

ส่วนของกำไรสุทธิในกลุ่ม 5 อันดับแรก มีเพียง SPALI เท่านั้นที่มีผลกำไรเป็นบวกเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของปี 66 ขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ มีกำไรลดลงไม่มากหรือมีนัยสำคัญอะไรต่อผลประกอบการมากนัก โดยเฉพาะ SIRI และ AP ลดลง 13.3% และ 17.1% ตามลำดับ เนื่องจากผลกำไรยังมีมูลค่าเกิน 5 พันล้านบาท ซึ่งกำไรที่ลดลงในปีที่ผ่านมาอาจจะชดเชยกลับมาในปี 68 นี้ก็เป็นไปได้ แม้ว่าสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะยังไม่ฟื้นตัว และมีทิศทางที่ต้องจับตามองอยู่ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ในปี 68 ผู้ประกอบการรายใหญ่มีแผนจะเปิดขายโครงการใหม่มากกว่าปี 67 และยังคงเป็นการขับเคี่ยวกันของ 3 รายหลัก คือ AP ประกาศแผนการลงทุนมีมูลค่าโครงการวมมากถึง 65,000 ล้านบาท จากจำนวน 42 โครงการ ขณะที่ SIRI เปิดขายโครงการใหม่จำนวน 29 โครงการ เท่านั้น แต่มีมูลค่าโครงการมากถึง 52,000 ล้านบาท โดยโฟกัสไปที่กลุ่มสินค้าระดับบน-ลักชัวรีมากขึ้น ส่งผลให้มูลค่าเฉลี่ยต่อโครงการสูงกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ และ SPALI มีโครงการเปิดขายใหม่ 36 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 46,000 ล้านบาท

ด้วยแรงกดันในตลาดที่อยู่อาศัยยังคงมีต่อเนื่องในปีนี้ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะลดลงเหลือ 2% แล้วก็ตาม แต่มาตรการช่วยเหลือหรือมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯจากรัฐบาลยังไม่มีความเคลื่อนไหว รวมไปถึงการที่ผู้ประกอบการทุกรายพยายามกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทยผ่อนปรนเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อ การผ่อนปรนเกณฑ์ LTV ชั่วคราวเพื่อให้กำลังซื้อส่วนหนึ่งกลับเข้ามาในตลาด แต่ดูเหมือนจะยังไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยงานภาครัฐ หากเป็นแบบนี้เชื่อว่าปี 68 จะยังเป็นอีกปีที่ตลาดที่อยู่อาศัยต้องเผชิญกับความท้าทายต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ