นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งผันผวน จากความกังวลสงครามการค้า หลังสหรัฐบังคับใช้มาตรการภาษีกับเม็กซิโก แคนาดา และจีน ขณะที่จีนและแคนาดาประกาศมาตรการตอบโต้แล้ว ส่วนเม็กซิโกก็คาดว่าจะประกาศมาตรการตอบโต้ตามมาในสัปดาห์นี้ ทำให้ประเด็นดังกล่าวยังกดดันตลาดหุ้นต่อไป
อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นมีความคาดหวังว่าสหรัฐจะผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ หลังรมว.พาณิชย์สหรัฐแย้มว่าน่าจะมีการประกาศแนวทางลดภาษีสำหรับเม็กซิโกและแคนาดาในเร็ว ๆ นี้ ทำให้นักลงทุนบางส่วนพอมีความหวังว่ากำแพงภาษีของสหรัฐกับแคนาดาและเม็กซิโกอาจจะไม่ได้รุนแรง ทำให้ตลาดมีโอกาสรีบาวด์กลับมาได้
ขณะที่จีนวันนี้มีการประชุมสภาประชาชนเป็นวันที่ 2 คาดจะมีการตั้งเป้าอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ รวมทั้งจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งคาดว่าตัวเลขเหล่านี้น่าจะมีความชัดเจน ระยะสั้นเป็น Sentiment บวกจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน
สำหรับปัจจัยในประเทศ ระยะนี้อาจดูแผ่วไปบ้าง แต่ Valuation ระดับปัจจุบันถือว่าไม่แพง ในมุมมองของเรา P/E ตลาดลงมาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว ถ้าดัชนีย่อตัวลงมาน่าจะเป็นจุดสะสมสำหรับนักลงทุนระยะยาวได้
โดยให้กรอบแนวรับ 1,170 จุด และแนวต้าน 1,190 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (4 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,520.99 จุด ลดลง 670.25 จุด หรือ -1.55%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,778.15 จุด ลดลง 71.57 จุด หรือ -1.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,285.16 จุด ลดลง 65.03 จุด หรือ -0.35%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 37,345.74 จุด เพิ่มขึ้น 14.56 จุด หรือ +0.04% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,324.70 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด หรือ +0.01% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,200.42 จุด เพิ่มขึ้น 258.65 จุด หรือ +1.13%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 มี.ค.) 1,177.64 จุด ลดลง 10.77 จุด (-0.91%) มูลค่าการซื้อขาย 42,064.95 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (4 มี.ค.) 873.73 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.(4 มี.ค.) ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.16% ปิดที่ 68.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 มี.ค.) อยู่ที่ 5.98 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.68 จับตาสุนทรพจน์ "ทรัมป์" คาดกรอบวันนี้ 33.60-33.90
- เศรษฐกิจโลกเดือดอีกหลังภาษีสหรัฐก๊อกสองมีผลบังคับใช้ รีดเพิ่ม จากจีน-แคนาดา-เม็กซิโก และกำลังจะรีดภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม จากทั่วโลกอัตราเพิ่มขึ้น 25% กลางเดือนมี.ค. รวมถึงเพิ่มภาษีรถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ ในเดือนเม.ย. "วอร์เรน บัฟเฟตต์" เจ้าพ่อตลาดหุ้นโลกเตือนเสี่ยงเงินเฟ้อ คนที่เดือดร้อนไม่พ้นชาวอเมริกัน ด้านสภาผู้ส่งออก ทางเรือไทย กังวลแข่งราคาเดือด โดยเฉพาะภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียมทำต้นทุนพุ่งสูง ขณะที่ไทยส่งออกไปสหรัฐขยายตัวต่อเนื่องเดือนที่ 16 โดยเดือนแรกปีนี้ส่งออกทะลุ 8.6 แสนล้านบาท
- ท่องเที่ยวซึม! กระแสความไม่ปลอดภัย-คอลเซ็นเตอร์ยังกระทบเชื่อมั่น สมาคมแอตต้า เผย ก.พ.-มี.ค. ชะลอตัวหนัก ตะลึงตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนรายวันร่วงต่ำหมื่น เมืองหลัก "กรุงเทพฯ-พัทยา" เงียบ ครึ่งปีหลังยังไร้ปัจจัยบวก เดินหน้าปัม "กรุ๊ปทัวร์" จีน-อินเดีย-เกาหลีใต้-ตะวันออกกลาง-อาเซียน แตะ 10 ล้านคนหนุน ก.ท่องเที่ยวฯ เปิด 2 เดือนแรกต่างชาติ เข้าไทย 6.82 ล้านคน ก.พ.จีนติดลบพุ่ง 45% แจงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงถือศีลอดมุสลิม บวกกับสิ้นสุดท่องเที่ยวฤดูหนาวยุโรป ทุบนักท่องเที่ยวติดลบทุกตลาด
- จับตาสหรัฐฯรุกตรวจมาตรฐานการบิน 10-14 มี.ค.นี้ ลุ้น FAA ขยับสถานะไทยกลับคืนสู่ Category 1 ด้าน CAAT ยัน 36 ข้อบกพร่องรอตรวจสอบ พร้อมยกเครื่องกำกับดูแลด้านการบิน ขับเคลื่อนเอวิเอชัน ฮับ เล็งเปิดฟาสแทร็ก เร่งเครื่องออกไลเซ่นท์สายการบินใหม่ จ่อยกเลิกกำหนดอายุเครื่องบิน ลดสัดส่วนการถือหุ้นของคนไทยในการจัดตั้งแอร์คาร์โก้ ปั้มการขยายตัวการขนส่งสินค้าทางอากาศ ดันเปิด MRO สนามบินสุวรรณภูมิ
- ใกล้คลอดเต็มแก่แล้ว สำหรับมาตรการแก้ปัญหาแรงเทขายกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) โดยการแปลงเป็นกองทุน "Thai ESG X" ที่ให้สามารถโอนย้ายหน่วยลงทุนได้อัตโนมัติ เพียงแจ้งความประสงค์กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่บริหารกองทุนอยู่ ภายในเดือน ส.ค.2568 ซึ่งจะได้รับสิทธินำหน่วยลงทุนที่โอนย้ายมาหักลดหย่อนภาษีได้
- คลังสั่งควบรวมกิจการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โยกทรัพย์สิน-บุคลากร-หนี้สินไปสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (NaCGA) ที่จัดตั้งใหม่ เร่งชงร่างกฎหมายนากก้าเข้า ครม.เดือน มี.ค.นี้ หวังค้ำประกัน SME ขนาดเล็กและขนาดกลางเข้าถึงสินเชื่อ
- "สรวงศ์" ย้ำไทยไม่ถอยเจรจาซื้อไลเซนส์เจ้าภาพจัดแข่งขัน "โมโต จีพี" แต่ 7 ปีที่เป็นลูกค้าประจำ ขอสิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มบ้าง รับบิ๊กอีเวนต์มอเตอร์ สปอร์ตสร้างความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เผยเจรจา F1 ควบคู่ หวังจัด 2 อีเวนต์ระดับโลกในไทย สร้างภาพลักษณ์ประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจ
- รัฐผ่อนเกณฑ์ขายเหล้า-เบียร์ วันพระใหญ่ ให้ขายได้ในสนามบินระหว่างประเทศ-โรงแรม ผับ เธค บาร์ ร้านเหล้า สถานที่จัดกิจกรรมระดับชาติ มั่นใจออกได้ทันก่อนวันพระใหญ่ 11 พ.ค.นี้ แต่เวลาขายยังคงเดิม ด้านสมาคมภัตตาคารเห็นด้วยหนุนเศรษฐกิจโต แต่ต้องคุมเข้ม อ้อนอยากให้ปลดล็อกเวลาขายมากกว่า
- "ทุนจีน" กินรวบธุรกิจท้องถิ่น ส่งสัญญาณอันตราย "อีคอมเมิร์ซไทย" เผชิญจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อทุนต่างชาติผูกขาดแทบเบ็ดเสร็จ "ช้อปปี้ ลาซาด้า" ครองส่วนแบ่งตลาดรวมกันกว่า 79% ขณะที่ "ติ๊กต็อก" เร่งแผ่อิทธิพลกดดันคู่แข่งในสมรภูมิอีคอมเมิร์ซต่อเนื่อง "นักวิเคราะห์" หวั่นปมผูกขาดเปิดช่องแพลตฟอร์มใหญ่ "ขึ้นค่าธรรมเนียม" แนะรัฐจริงจังสกัดสินค้าจีนทะลักก่อนผู้ประกอบการไทยถอดใจ หลังเผชิญสงครามราคารุนแรงยากต่อสู้
*หุ้นเด่นวันนี้
- BA (เคจีไอ) เป้า Consensus 27 บาท ประเมินมีโอกาสเห็นการ Switching จาก AOT มายังหุ้นสายการบินตัวอื่นที่ยังแกร่ง จากสถานการณ์ล่าสุดของ AOT ที่มีปัจจัย Overhang ธุรกิจ Non-aero โดยเฉพาะพื้นที่สัมปทาน King power ขณะที่การท่องเที่ยวไทยยังโตเด่น มองโอกาส Switching หรือ ปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบันมายังหุ้นสายการบินที่คาดกำไรไตรมาส 1/68 จะโตดีต่อเนื่องอย่าง BA (คาดได้ประโยชน์จาก High season/กระแสซีรีย์ The White Lotus/ค่าตั๋วแพงแต่ราคาน้ำมันลง)
- BDMS (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 29.40 บาท คงมุมมองเชิงบวกจาก Downside จำกัด แม้กรณีได้รับผลกระทบจาก Copayment เต็มจำนวนที่ 5% จะส่งผลให้ราคาหุ้นอยู่ที่ 23.10 บาท นอกจากนี้ มองโอกาสโตราว 2-3 เท่าของ GDP หรือ 5-7% ในปี 68 อีกทั้งชื่นชอบความแข็งแกร่งจากเครือข่ายโรงพยาบาลใหญ่สุดในประเทศและกระจายความเสี่ยงในระดับสูง ไม่ได้พึ่งพิงโรงพยาบาลใดเป็นหลัก ปัจจุบัน BDMS ซื้อขายอยู่ที่ระดับ -1SD ประกอบกับกำไรไตรมาส 1/68 ที่ดีกว่าคาดและมีผลประกอบการแกร่งสุด
- JMT (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 20.50 บาท ปี 67 ที่ยากลำบากได้ผ่านไปแล้ว ผลการดำเนินงานรายไตรมาสมีพัฒนาการดีต่อเนื่อง ทั้ง ECL ในไตรมาส 4/67 ลดเหลือเพียง -60 ลบ. จาก -127 ลบ.ในไตรมาส 3/67 ขณะที่ Cash collection ทำได้ 2.3 พัน ลบ. ฟื้นเป็นไตรมาสที่สอง +3.0% q-q ส่วน กนง.ลดดอกเบี้ยช่วยลดต้นทุนทางการเงิน ขณะที่ปัจจุบันซื้อขาย P/E25E 9.9x vs EPS growth +20.5% y-y ราคาหุ้นถูกเกินไป น่าสะสม