ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองและความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯจะกดดันดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ในเดือน มี.ค. จึงปรับลดเป้าหมายดัชนี SET สิ้นปี 68 เป็น 1,380 จุด จากเดิม 1,530 จุด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 ก.พ.68 ฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน มี.ค.68 แม้จะเชื่อว่านายกรัฐมนตรีน่าจะรอดจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจยังคงกดดันตลาดหุ้นไทยท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างพรรคเพื่อไทยแกนนำรัฐบาลและพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีจำนวนส.ส. มากสุดเป็นอันดับสอง โดยความขัดแย้งระหว่างสองพรรค อาจฉุดรั้งการอนุมัติโครงการสำคัญของรัฐบาล เช่นพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex
ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 11 ของประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯมากที่สุดในปี 67 โดยข้อมูลจาก Worldpopulationreview.com แสดงให้เห็นว่าไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ 3.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 67 เทียบกับ 2.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 66 อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ฯ เชื่อว่าไทยน่าจะไม่ใช่เป้าหมายอันดับต้นๆ ที่สหรัฐจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้า เนื่องจากไทยยังมีเกินดุลการค้าน้อยกว่าจีน เม็กซิโก และ เวียดนามมาก แต่ความกังวลจากประเด็นนี้อาจยังกดดันหุ้นไทยในเดือนมี.ค.68
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ ระบุว่า จากปัจจัยลบที่รุนแรงทั้งในประเทศและนอกประเทศ จึงตัดสินใจปรับลดเป้าดัชนี SET สิ้นปี 68 จาก 1,530 จุด (P/E 15 เท่าในปี 68, -1SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี) มาเป็น 1,380 จุด ซึ่งจะเท่ากับ P/E 14 เท่าในปี 69 หรือ -2SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี ขณะที่แนะนำให้เน้นการลงทุนในหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและหุ้นในกลุ่มปลอดภัย
โดยได้เพิ่ม CPALL, KTB, MINT, PR9 และ PTTEP เข้ามาในรายชื่อหุ้น Top pick และยังเชื่อว่าหุ้นที่ราคาดิ่งลงไปก่อนหน้านี้น่าจะดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อ sentiment ตลาดกลับมาเป็นบวก ดังนั้นจึงเพิ่ม HANA และ SIRI เป็นหุ้น Top pick ขณะที่ถอดหุ้น AMATA, BCH และ CRC ออก
อย่างไรก็ตาม คำแนะนำอาจมี downside risk หากความตึงเครียดทางการเมืองยกระดับขึ้นและสหรัฐฯประกาศใช้นโยบายอัตราภาษีต่างตอบแทน (reciprocal tax) กับไทย ส่วนโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 อาจส่งผลดีต่อตลาดหุ้น ดังนั้นหุ้น Top pick ของฝ่ายวิจัยฯ จึงประกอบด้วย BH, CBG, CPALL, CPN, HANA, KTB, MINT, MTC, PTTEP, SCB, PR9 และ SIRI