BRI เคาะแผนขายหุ้นเพิ่มทุน-แจกวอแรนท์เสริมแกร่งของฐานทุนรองรับการเติบโตยั่งยืน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 5, 2025 12:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

BRI เคาะแผนขายหุ้นเพิ่มทุน-แจกวอแรนท์เสริมแกร่งของฐานทุนรองรับการเติบโตยั่งยืน

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บริทาเนีย [BRI] กล่าวว่า ในปี 2568 จะยังคงเป็นปีแห่งการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจ บริษัทจึงมีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) และออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) โดยจะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้บางส่วนไปใช้ในการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมจากบมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ [ORI] ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ลดลง ทำให้บริษัทสามารถลดภาระหนี้สิน ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการกู้ยืมเงินของบริษัทได้ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความมั่นคงทางการเงินของบริษัท ให้มีโครงสร้างเงินทุนและอัตราส่วนทางการเงินที่เหมาะสม รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

BRI จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) จำนวน 853,081,100 ล้านหุ้น ในอัตราส่วน 1:1 และออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่ได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน ในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ

ทั้งนี้ บริษัทจะนำแผนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนรวมถึงการออกใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันที่ 24 เมษายน 2568 เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป

สำหรับผลประกอบการปี 2567 จากการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ "Crafting for Everlasting Growth" รังสรรค์เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงบริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท นำไปสู่การสร้างยอดขาย (Presale) รวม 6,551 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมทุนพัฒนาโครงการจากพันธมิตรทั้งสิ้น 7 โครงการ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยหนึ่งในนั้นบริทาเนียได้รับความไว้วางใจจาก โซเท็ตซึ เรียล เอสเตท ในเครือโซเท็ตซึ กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ด้านรถไฟฟ้า-อสังหาฯ-ค้าปลีกสัญชาติญี่ปุ่น

ปี 2567 BRI มียอดโอนกรรมสิทธิ์ 3,441 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดโอนจากโครงการที่ไม่ได้เป็นโครงการร่วมทุนเท่ากับ 2,848 ล้านบาท และเป็นยอดโอนจากโครงการร่วมทุน 593 ล้านบาท นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังมีรายได้ค่าบริหารโครงการ เท่ากับ 536 ล้านบาท กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย 362 ล้านบาท รายได้อื่น 114 ล้านบาท จากรายการดังกล่าวทำให้บริทาเนียมีรายได้รวม เท่ากับ 3,860 ล้านบาท กำไรสุทธิ เท่ากับ 427 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2567 มียอดขายที่รอรับรู้ได้รายได้เท่ากับ 802 ล้านบาท

นางศุภลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา ภาพรวมของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยสำคัญต่างๆ อาทิ ภาวะเศรษฐกิจโลก หนี้ครัวเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงินจากอัตราหนี้เสียที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อในประเทศยังคงชะลอตัว เนื่องจากผู้บริโภคยังคงไม่มีความพร้อมทางการเงินสำหรับการซื้อทรัพย์สินราคาสูงดังเช่นที่อยู่อาศัย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ