
นายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.จีเอเบิล [GABLE] ระบุว่า บริษัทพร้อมเดินหน้าต่อยอดความเป็น Tech Enabler ผ่าน 3 กลยุทธ์หลักเร่งสร้างรายได้ All Time High อย่างต่อเนื่องในปี 2025
ตั้งแต่ปี 64-67 รายได้ของจีเอเบิลเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาโดยตลอด และสามารถสร้างรายได้และ Backlog ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 66 เรื่อยมาจนถึงปี 67 ด้วย 3 กลยุทธ์หลักที่เป็นกุญแจสร้างการเติบโต ดังนี้
1. AI Foundation Readiness การมาของเทคโนโลยี AI และ Data Center ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภาคธุรกิจองค์กร มีส่วนช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ IT Infrastructure ของจีเอเบิลให้แข็งแรงมากขึ้น ด้วยความเชี่ยวชาญด้าน IT Infrastructure ของจีเอเบิลในการเข้าไปช่วยให้ธุรกิจองค์กรต่างๆ มีความพร้อมตั้งแต่การเตรียมข้อมูลในองค์กรให้พร้อมใช้งานกับเทคโนโลยีได้จริง (Data Ready) เพื่อให้พร้อมสู่การเชื่อมต่อเข้ากับเทคโนโลยี AI (AI Ready) ในอนาคตอันใกล้ จากความเชี่ยวชาญของทีมงาน Cloud Migration ของจีเอเบิลที่มีความพร้อมเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ได้สร้างผลลัพธ์ความสำเร็จเป็นรายได้กลุ่มธุรกิจ Cloud and Data Center ที่เติบโตมากถึง 61% ในปี 67
2. Business Applications จีเอเบิลได้มีการขยายฐานการเติบโตทางธุรกิจผ่าน Business Application ด้าน HCM (Human Capital Management), ERP (Enterprise Resources Planning) และ CRM (Customer Relationship Management) ที่สอดคล้องกับข้อมูลทิศทางแนวโน้มการเติบโตของ Business Application ของการ์ทเนอร์ ที่ว่าธุรกิจองค์กรยังมีความต้องการที่จะลงทุนใน Software as a service ด้าน HCM, ERP และ CRM อย่างต่อเนื่องในอีกหลายปีต่อจากนี้ ซึ่งในช่วงไตรมาสของปี 2024 ที่ผ่านมา จีเอเบิลสามารถสร้าง Portfolio ใหม่ด้าน ERP และ CRM ที่เกิดยอดรายได้ที่ 7.2% จากรายได้ทั้งหมดในไตรมาส 4/67
3. Strategic Acquisitions การนำเงินทุนจาก IPO มาลงทุน M&A เพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งในช่วงปี 2024 จีเอเบิลได้เข้าลงทุนใน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ราวด์ ทู โซลูชั่นส์ จำกัด (Round 2 Solutions) ผู้เชี่ยวชาญในการ Implement เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ระดับโลกทั้ง SAP (ERP) และ Salesforce (CRM) และบริษัท ออพซ์ตา (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Opsta ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี DevSecOps โดยการลงทุนของ Blendata บริษัทในเครือของจีเอเบิล อันเป็นการช่วยต่อยอด IP ของ Blendata ให้แข็งแกร่งพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุค AI Transformation
ในปี 68 จีเอเบิล ยังคงตั้งเป้าหมายที่ท้าทายในการสร้างสถิติ All Time High อย่างต่อเนื่อง และมุ่งสู่ผู้นำ Smart Business Application Provider ในประเทศไทยด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่
1. กลยุทธ์ Improve Productivity ด้วยโจทย์ความท้าทายในการดำเนินธุรกิจองค์กรในทุกวันนี้ ผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจองค์กรส่วนใหญ่ต่างมองหาผลลัพธ์ผลตอบแทนจากการลงทุนในเทคโนโลยีว่าได้กลับมามากน้อยแค่ไหนและคุ้มค่าหรือไม่กับการลงทุน จีเอเบิลจึงได้วางกลยุทธ์ที่มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการครบวงจรแบบ Real End-to-end ผ่านการรวม Portfolio และเทคโนโลยีทั้งหมด รวมถึง Business Application ของจีเอเบิลและบริษัทในเครือเข้าด้วยกัน เพื่อลดต้นทุนในการให้บริการ และเพิ่มจุดแข็งด้าน IT Infrastructure ให้แข็งแกร่งและครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มบทบาทด้าน Business & Technology Consulting ที่ปรึกษาทั้งในมุมของเทคโนโลยีและธุรกิจมากขึ้น เพื่อขยายโอกาสในการต่อยอดรายได้ในอนาคต
2. กลยุทธ์ Empower Current Businesses นอกจากการสร้าง Cost Competitive เพื่อแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น จีเอเบิลยังเล็งเห็นว่าในปีนี้แม้จะมีความท้าทายมากมาย แต่ก็มีโอกาสซ่อนอยู่ การเข้ามาของ Data Center ของ Global Vendor ที่มีแต่ Infrastructure อย่างเดียว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านระบบคลาวน์อย่างจีเอเบิล เข้าไปช่วยในการทำ Cloud Migration ในการนำข้อมูลสำคัญของธุรกิจองค์กรต่างๆ ขึ้นไปบริหารจัดการในระบบคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยจุดเด่นของระบบคลาวด์ที่ความยืดหยุ่นในการใช้งานสูงและตอบโจทย์การบริหารต้นทุนของธุรกิจองค์กรได้ดีเพราะเกิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง
อีกทั้งจีเอเบิลยังมองเห็นโอกาสการเติบโตในเทรนด์ที่ธุรกิจองค์กรต่างๆ กำลังจะย้ายข้อมูลองค์กรเข้าสู่ระบบคลาวน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเสริมดิจิทัลโซลูชันใน Portfolio ที่จีเอเบิลมีและสร้าง Value จากข้อมูลบนคลาวน์ของผู้ใช้บริการให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็น Data Analytics, Business Application รวมถึงการปกป้องข้อมูลบนระบบคลาวน์ให้มีความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี Cybersecurityขั้นสูง ซึ่งสอดรับทิศทางจาก Gartner ได้คาดการณ์ว่า Infrastructure as a Service (Cloud) จะเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 33.4% ในปี 67-69
อีกทั้งกลุ่มธุรกิจการเงิน ธุรกิจโทรคมนาคม และธุรกิจบริการ ที่เป็นฐานลูกค้าหลักของจีเอเบิล เติบโตขึ้นอย่างมีนัยและเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มในการลงทุนกับเทคโนโลยีเพื่อต่อยอดการเติบโตและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจมากขึ้น นอกจากนี้ จีเอเบิล ยังตั้งเป้าขยายกลุ่มลูกค้าไปในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ด้วยการจับมือพันธมิตรบุกตลาดเพื่อสร้าง Quick Win ผ่านการ Acquire บริษัท ราวด์ ทู โซลูชั่นส์ จำกัด ที่มีฐานลูกค้าหลักในกลุ่ม FMCG ระดับ Enterprise และการจับมือกับพันธมิตรกับบริษัท ไทย เอ็นเอส โซลูชั่นส์ จำกัด (Thai NS Solutions) ที่มีฐานลูกค้าหลักในกลุ่มธุรกิจบริษัทญี่ปุ่น
และ 3. กลยุทธ์ Grow New Businesses การเติบโตใน Business Application หรือ Business Software รวมถึง M&A ในปัจจุบันเทรนด์ IT Spending ที่น่าสนใจมีอยู่ 2 เทรนด์คือ 1. เทรนด์ของคลาวด์ ที่จะเข้ามาทำให้ Portfolio ของ Cloud & Data Center โตขึ้น รวมถึง 5 Portfolio ของจีเอเบิลโตขึ้นด้วย และ 2.เทรนด์ Software as a service ซึ่งเติบโตขึ้น ด้วยปัจจัยการเติบโตของเทคโนโลยีคลาวด์ และเทคโนโลยี Artificial Intelligence ที่เติบโตขึ้นเร็วมาก จาก Predictive AI สู่ Generative AI จนเป็น Agentic AI ในปัจจุบัน สอดคล้องกับข้อมูลของ Gartner ที่มีการคาดการณ์ว่า Business Applications (ERP,CRM,HCM) จะเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 14.2% ในปี 67-69 และภายในปี 69 กว่า 80% ของ Global Vendor Software จะมีการใช้เทคโนโลยี AI มาเป็นส่วนประกอบ
จีเอเบิลได้เดินกลยุทธ์นี้มาตั้งแต่ปี 67 โดยการเข้าไปลงทุนเพิ่มเติมในบริษัทผู้ให้บริการ Global Software อย่างบริษัท ราวด์ ทู โซลูชั่นส์ จำกัด ซึ่งเป็น Partner หลักของ SAP และ Salesforce ซึ่งในปี 68 Global Software ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับจีเอเบิลได้ทยอยเปิดตัว Feature Function AI ที่มีการฝัง AI Agent เข้าไปอยู่ในระบบ Operation เพื่อเพิ่ม Productivity การทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งคาดว่าจีเอเบิลน่าจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าในการสร้างโอกาสการลดต้นทุน และ Competitive Advantage ได้ในทิศทางเดียวกัน ในมุมของ Strategic Acquisition มีเป้าหมายเพื่อเพิ่ม gross profit margin ให้สูงขึ้น อีกทั้งสร้าง Synergy กับธุรกิจปัจจุบันของจีเอเบิล ให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้หลากหลายขึ้น รวมถึงการขยายฐานลูกค้าใหม่ที่กว้างขึ้นให้กับจีเอเบิล"
"จากผลงานความสำเร็จในการวางกลยุทธ์และการดำเนินงานในปี 67 ของจีเอเบิลในฐานะ Tech Enabler ผู้อยู่เบื้องหลังการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำให้ทุกธุรกิจองค์กรในหลายภาคอุตสาหกรรมสามารถสร้างกำไรเหนือคู่แข่งและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในโลกของดิจิทัล จีเอเบิลยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ทั้ง 3 ที่สอดคล้องกับทิศทางเทรนด์การเติบโตของเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรที่แข็งแกร่งและหลากหลาย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่จีเอเบิลอย่างยั่งยืนในระยะยาว" นายชัยยุทธ กล่าว