
ส่วนที่ค้างจ่ายมาก่อนหน้านี้ของกลุ่มคิงเพาเวอร์กว่า 4 พันล้านบาท ที่จะมีการปรับการผิดนัดชำระ 18%ต่อปี ซึ่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT ยืนยันว่า บริษัทมีแบงก์การันตี KPD และ KPS มากกว่าจำนวนหนี้ค้างจ่ายอยู่แล้ว และคาดว่าในปี 68 (ต.ค.67-ก.ย.68) รายได้จาก Non-Aero จะใกล้เคียงกับปี 67 (ต.ค.66-ก.ย.67) ทั้งนี้ ในปี 67 AOT มีรายได้รวม 6.77 หมื่นล้านบาท สัดส่วนรายได้ Aero 55% และ Non-Aero 45%
แต่ในส่วนรายได้จากธุรกิจการบิน (AERO) คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน โดยในไตรมาส 1/68(ต.ค.-ธ.ค.67) นักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโต 22%y-y และในเดือน ม.ค.-ก.พ. 68 นักท่องเที่ยวต่างชาติ เติบโต 12%Y-Y โดยทั้งปี 68 บริษัทยังคงเป้าหมายผู้โดยสารรวม 130 ล้านคนจากปีก่อน 120 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นราว 10%
"ราคาหุ้น AOT ที่ปรับตัวลง เพราะเขาห่วงผู้ประกอบการ หรือ คิงเพาเวอร์ เป็นห่วงเรื่องสภาพคล่องของเขา เราในฐานะผู้บริหารสัญญา ในส่วนทุกบาทที่ขยายให้มันมีแบงก์การันตี cover อยู่ เงินที่เราให้เขายืดหนี้มีเงินค้ำประกัน" นายกีรติ กล่าว
ทั้งปี สัญญาบริหารพื้นที่ดิวตี้ฟรี ที่สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง และสนามบินภูมิภาค 3 แห่ง คือภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่) มีระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่ปี 63-73
*บอร์ดเปิดให้ผู้เช่า-ดิวตี้ฟรี-สายการบินเลื่อนจ่าย รอบใหม่
ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมโครงการต้องมีหลักประกันสัญญาและวงเงินหลักประกันสัญญาต้องครอบคลุมเงินต้นและค่าปรับจากการผิดนัดชำระในอัตรา 18%ต่อปี โดยสามารถเลื่อน หรือแบ่งจ่ายคาผลประโยชน์ตอบแทนหรือค่าบริการสนามบิน โดยระยะเวลาที่ขอเลื่อนหรือแบ่งจ่ายงวดสุดท้ายจะต้องสิ้นสุดไม่เกินอายุสัญญาและไม่เกิน 24 เดือน นับจากเดือนที่ AOT มีมติอนุมัติโครงการ หรือในเดือน ม.ค. 70
และผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องจ่ายดอกเบี้ยของยอดเงินที่ขอเลื่อน หรือแบ่งจ่ายนั้น ทุกเดือน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย จากดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR)เฉลี่ยธนาคารขนาดใหญ่ 5 แห่ง (ธ.กรุงเทพ,ธ.กสิกรไทย,ธ.กรุงไทย,ธ.ไทยพาณิชย์และ ธ.กรุงศรีอยุธยา)บวกเพิ่มอีก 2%ต่อปี และจะต้องไม่น้อยกว่าต้นทุนการเงินของ AOT
*เดินหน้าขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้ติด Top10ของโลก
ในส่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายกีรติ กล่าวว่า AOT มีเป้าหมายที่จะขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้สามารถรองรับผู้โดยสาร 150 ล้านคน/ปี เพื่อจะยกระดับขึ้นเป็นสนามบิน Top Ten ของโลก จากปัจจุบันที่รองรับได้ 65 ล้านคน/ปี เมื่อขยายส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) จะเพิ่มเป็น 80 ล้านคน/ปี
โดยในเดือน พ.ค.68 AOT จะเปิดประมูลโครงการพัฒนาส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท ที่จะรองรับผู้โดยสารอีก 15 ล้านคน/ปี คาดได้ผู้รับเหมา ก.ค.68 และจะเริ่มงานก่อสร้างในเดือน พ.ย.68 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี หรือแล้วเสร็จในปี 71
และจะมีโครงการอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) ที่จะรองรับผู้โดยสาร 70 ล้านคน/ปี ซึ่งแผนงานจะประมูลและเริ่มก่อสร้างปี 70 โดยเนื้องานจะรวมรันเวย์ที่ 4 และระบบรถไฟฟ้าอัตโนมัติ(เชื่อมจากอาคาร SAT-1 ไป South Terminal) วงเงิน 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งการทบทวนแผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะไม่มีอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 2 (SAT-2) และส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันตก (West Expansion) ขณะที่ส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expansion) อาจจะไม่จำเป็นเพราะมี อาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้แล้ว ซึ่งอาจจะนำพื้นที่ไปใช้รองรับศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) และ คาร์โก้ อย่างไรก็ดี AOT เตรียมเซ็นสัญญาว่าจ้างที่ปรึกษาทบทวนแผนแม่บทอีกครั้ง