(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าพักตัวรับแรงกดดันกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ-แจกเงินดิจิทัลเฟส 3 ผลจำกัด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 11, 2025 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีพักตัว ตามทิศทางตลาดหุ้นโลก จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐอาจถดถอย เนื่องจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้งนโยบายด้านภาษี และการลดงบประมาณรายจ่าย ทำให้นักลงทุนอยู่ในโหมด Risk-Off

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปี ที่ปรับลดลงมาสะท้อนว่าตลาด Risk-Off พอสมควร ส่งผลให้วันนี้ตลาดภูมิภาคและตลาดหุ้นไทยอาจพักตัว แต่คาดหวังบ้านเราอาจลงน้อยกว่าภูมิภาคหลังจากวานนี้ลงไปลึกแล้ว อีกทั้งโครงสร้างมี Value Stock มากกว่า Growth Stock ทำให้เวลาปรับลงอาจลงน้อยกว่า

ด้านปัจจัยในประเทศ เมื่อวานนี้มีความคืบหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ในกลุ่มอายุ 16-20 ปี โดยคาดว่าวงเงินจะอยู่ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเฟสอื่น ๆ ก่อนหน้า ทำให้ผลต่อเศรษฐกิจและอัพไซด์ต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังจำกัด

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังขาดแรงขับเคลื่อนที่มีเสถียรภาพ ปัจจัยบวกที่จะขับเคลื่อนในระยะถัดไปมองว่ามาตรการภาครัฐหวังว่าจะหา New S-curve ใหม่ ๆ เจอ ซึ่งตอนนี้ยังรออยู่ ด้านมาตรการเชื่อมั่นของตลาดทุน การโอนเงินจากกองทุน LTF มาสู่กอง ThaiESG 2 คาดว่าจะช่วยลดแรงขายลงได้บ้าง และโครงการออมเงินหุ้นระยะยาว (TISA) หากดึงดูดเม็ดเงินใหม่เข้าตลาดได็้ก็น่าจะช่วยหนุนสภาพคล่องให้ดีขึ้น ส่วนมาตรการอื่น ๆ รอความชัดเจนที่เห็นเป็นรูปธรรมเพื่อช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยให้ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

โดยให้กรอบแนวรับ 1,170 จุด และแนวต้าน 1,190 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (10 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,911.71 จุด ลดลง 890.01 จุด หรือ -2.08%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,614.56 จุด ลดลง 155.64 จุด หรือ -2.70% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,468.32 จุด ลดลง 727.90 จุด หรือ -4.00%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 36,584.37 จุด ลดลง 443.90 จุด หรือ -1.20% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงที่ระดับ 23,274.86 จุด ร่วงลง 508.63 จุด หรือ -2.14% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนที่ระดับ 3,335.44 จุด ลดลง 30.72 จุด หรือ -0.91%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 มี.ค.) 1,177.44 จุด ลดลง 24.59 จุด (-2.05%) มูลค่าการซื้อขาย 34,290.22 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (10 มี.ค.) 3,386.47 ล้านบาท
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.(10 มี.ค.) ลดลง 1.01 ดอลลาร์ หรือ 1.51% ปิดที่ 66.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 มี.ค.) อยู่ที่ 4.38 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.95/96 อ่อนค่าตามภูมิภาค คาดกรอบวันนี้ 33.80 - 34.10
  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผย Thai ESG ใหม่ ชัดเจนในสัปดาห์นี้ พร้อมอยู่ระหว่างหารือกับพาณิชย์ เรื่อง "ซื้อหุ้นคืน" คาดเปิดตัวโครงการ Jump+ ช่วงเดือนพ.ค.นี้ ด้าน "ชวินดา" ย้ำกองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง (VAYU1) ยังมีเงินสดอีกหลายหมื่นล้านบาทเพื่อเข้าซื้อหุ้น โบรกฯ แนะ 8 หุ้นปันผลเด่นรับแรงซื้อเก็งมาตรการออมหุ้น TISA
  • บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจเคาะดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เฟส 3 แจกกลุ่มเจน Z หรือช่วงอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน เผยเป็นเฟสแรกที่ใช้ "ฟูลลิ่งดิจิทัลเต็มสูบ" พร้อมย้ำไม่แจกเงินสด
  • "เผ่าภูมิ" เผยรัฐบาลเตรียมเงินก้อนใหม่ 1.5 แสนล้านบาท เข้ากระตุ้นเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 2-3 ของปีนี้ พร้อมหนุนภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ ผ่านการปรับโครงสร้างภาษีหนุนรถ PHEV-อัดสินเชื่อรถกระบะ เพื่อรักษาโมเมนตัมเศรษฐกิจ เผยคลังอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการระยะสั้น-ยาวหนุนตลาดหุ้นไทย แนะมองยาวหุ้นไทยรับพื้นฐานเศรษฐกิจ
  • สมาคมค้าปลีกไทยกระทุ้งรัฐเร่งสางวิกฤติสินค้านำเข้าราคาต่ำทะลัก เปิดช่องการค้าไม่เป็นธรรมขยายวงกว้าง สะเทือน ผู้ประกอบการไทยหลายธุรกิจร้ายแรงขั้นปิดกิจการ แนะ 3 แนวทาง "คุมเข้มคุณภาพสินค้า-ปรับโครงสร้าง ภาษี-ปิดช่องโหว่ต่างชาตินอมินี" สร้างสมดุล ลดเหลื่อมล้ำการแข่งขัน ปกป้องผู้บริโภค เสริมแกร่งเศรษฐกิจระยะยาว
  • เวทีสมาคมเศรษฐศาสตร์ เตือนรับมือทรัมป์ "ดอน" หวั่นทั่วโลกหันใช้มาตรการสงครามการค้า เตือนค่าเงินทั่วโลกผันผวน "กอบศักดิ์" ชี้ผลกระทบเพิ่งเริ่มต้น จับตาลากยาวต่ออีก 4 ปี ชี้ความขัดแย้งอาจไม่กระทบเฉพาะเศรษฐกิจ "ทีดีอาร์ไอ" มองผลกระทบยังมีโอกาส เร่งหาตลาดใหม่ ส.อ.ท.จี้รัฐศึกษาและตั้งรับวิกฤติกระทบภาคธุรกิจ "ปิติ" หวั่นไทยอยู่ตรงกลาง รับศึกหนัก แนะสร้างอำนาจต่อรองอาเซียน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PRTR (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 6.30 บาท บริษัทตั้งเป้าการเติบโตปี 2568 ที่แข็งแกร่ง โดยประเมินพอร์ตธุรกิจ Outsource จะเพิ่มขึ้น +13% เป็น 21,500 คน ส่วนธุรกิจ Recruitment ตั้งเป้าจัดหา 2,800 ตำแหน่ง (+14.8%) และ 3 ธุรกิจใหม่จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น Upside ส่วนเพิ่มอาจจะมาจากการทำ M&A คาดกำไรปีนี้ขยายตัว +24% ท่ามกลาง PE ปัจจุบันที่ 8 เท่า และอัตราปันผลสูงราว 8% น่าทยอยสะสม
  • CENTEL (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐานที่ 41.86 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกต่อเป้าหมายสำหรับทั้งโรงแรมเติบโตราว 23% มาจากส่วนของ RevPar ราว 4,500 -4,800 บาท และอัตราการเข้าพักที่ 74-77% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ 71% และ ADR คาดเพิ่มขึ้น 7-10% และธุรกิจอาหารตั้งเป้า SSSG เพิ่มขึ้นราว 3-5% ในปี 2568 เปิดสาขาเพิ่มขึ้น 50-70 สาขา คาดหนุนโตราว 6-8% ธุรกิจโรงแรมแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งจากกลุ่ม upscale and luxury hotels (Centara Grand, Centara Reserve) และคาด Centara Mirage Pattaya กับ Centara Karon จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจโรงแรมสำหรับปีนี้
  • AWC (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 4.20 บาท การปรับลงในช่วงที่ผ่านมาจากความกังวลต่อความปลอดภัยของการท่องเที่ยวไทย CAPEX และการเลื่อนการเปิดโรงแรมใหม่กระทบต่อการปรับลดประมาณกำไรปี 68 ราว 10% แต่เชื่อว่าสะท้อนราคาหุ้นแล้วปรับลง -9.6% จากจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ 26 ก.พ.68 ที่มีการรายงานงบ Q4/67 ส่งผลให้ราคาปัจจุบันอยู่ในโซนต่ำใกล้เคียงจุดต่ำสุดของช่วง Covid-19 ที่ 2.90 บาท แรงขับเคลื่อนของราคาจะมาจากแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/68 คาดโต QoQ และ YoY จาก High season ท่องเที่ยวไทย ขณะที่ไตรมาส 2-3 คาดได้ประโยชน์เราเที่ยวด้วยกันเชื่อเห็นความคืบหน้าเดือนนี้หนุนกำไรปี 68 ขยายตัว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ