ดอกเบี้ยลงหนุนดัชนีความเชื่อมั่นดีมานด์ซื้อที่อยู่อาศัยกทม.-ปริมณฑล Q4/67 ดีดขึ้น โฟกัสบ้าน 3-5 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 11, 2025 11:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอกเบี้ยลงหนุนดัชนีความเชื่อมั่นดีมานด์ซื้อที่อยู่อาศัยกทม.-ปริมณฑล Q4/67 ดีดขึ้น โฟกัสบ้าน 3-5 ลบ.

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงาน "ดัชนีความเชื่อมั่นความต้องการ ซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 4/67" พบว่า ประชาชนเริ่มมีความเชื่อมั่นในการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยมีค่าดัชนีเท่ากับ 42.9 เพิ่มขึ้น 2.4 จุดจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนี 40.5 (QoQ) รวมถึงสัดส่วนของผู้ที่วางแผนจะซื้อที่อยู่อาศัยภายใน 6 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 28.2% จาก 24.7% ในไตรมาสก่อนหน้า

ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการปรับลดของอัตราดอกเบี้ย และสถาบันการเงินมีการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ สามารถกระตุ้นกำลังซื้อในไตรมาส 4/67 โดยข้อมูลส่วนใหญ่พบว่า ประชาชนมีการซื้อที่อยู่อาศัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออยู่อาศัยเอง (32.1%) มากกว่าซื้อเพื่อการลงทุน (15.8%) และส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน (55.1%) มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน อยู่ในช่วง 15,001?30,000 บาท (34.4%) และต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคา 2.01?3.00 ล้านบาท มากที่สุด (25.3%)

ขณะที่ประเภทที่อยู่อาศัยที่มีความต้องการมากที่สุดยังคงเป็นประเภทบ้านเดี่ยว (40.6%) ในระดับราคา 3.01?5.00 ล้านบาท และต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ มากที่สุด (56.1%) โดยเฉพาะในย่านเศรษฐกิจ ส่วนปริมณฑลมีความต้องการซื้อในจังหวัดนนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, นครปฐม และสมุทรสาคร ตามลำดับ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

วัตถุประสงค์ในการซื้อที่อยู่อาศัย ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 4/67 พบว่า ประชาชนชะลอ การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุน แต่เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองมากขึ้น โดยผลจากการสำรวจพบว่า ผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ (32.1%) ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อันดับสอง คือ ต้องการซื้อลงทุนเพื่อเก็งกำไร/ให้เช่า (15.8%) และอันดับสาม ซื้อเพื่อเป็นทรัพย์สิน (14.6%) โดยวัตถุประสงค์ทั้งสามอันดับแรกมีสัดส่วนลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

โดยปัจจัยหลักของความต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เนื่องจากต้องการแยกครอบครัวหรือแต่งงาน มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 8.9% เป็น 10.3% ขณะที่บางกลุ่มต้องการความสะดวกในการเดินทาง มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 8.9 % เป็น 9.0% ต้องการสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 8.1% เป็น 8.5% และต้องการนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 3.1% เป็น 3.6% ซึ่งมีแนวโน้มที่ค่อยๆขยายตัวเพิ่มขึ้น

ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย พบว่า ส่วนใหญ่มีความต้องการซื้อบ้านเดี่ยว ในระดับราคา 3.01?5.00 ล้านบาท มากที่สุด รองลงมา คือ คอนโดมิเนียม ในระดับราคา 2.01?3.00 ล้านบาท มากที่สุด สำหรับทาวน์เฮ้าส์มีความต้องการซื้อในระดับราคา 2.01?3.00 ล้านบาท มากที่สุด ส่วนบ้านแฝดมีความต้องการซื้อ ในระดับราคา 3.0-5.00 ล้านบาท มากที่สุด และอาคารพาณิชย์มีความต้องการซื้อ 0.2% ต้องการซื้อเพียงระดับราคาเดียว คือ ระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท

โดยภาพรวมช่วงราคาของที่อยู่อาศัยที่ต้องการซื้อ ส่วนใหญ่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคา 2.01?3.00 ล้านบาท (25.3%) และระดับราคา 3.01?5.00 ล้านบาท (22.8%) ซึ่งทั้งสองช่วงระดับราคาดังกล่าวเป็นกลุ่มระดับราคาหลัก มีสัดส่วนรวมกันถึง 48.1% โดยไตรมาสนี้ผู้ตอบแบบสอบถามมีความต้องการ ซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคา 1.01?3.00 ล้านบาท และระดับราคา 5.01?7.00 ล้านบาทเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับ ไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)

พื้นที่ที่ได้รับความสนใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัย พบว่า

อันดับ 1 ได้แก่ กรุงเทพฯ มีสัดส่วนความต้องการที่อยู่อาศัย 56.1% ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท มากที่สุด คิดเป็น 26.2% โดยเฉพาะในทำเลที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจ ใกล้แหล่งงาน เช่น บางนา บางแค ลาดพร้าว สุขุมวิท และบางกะปิ

อันดับ 2 ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี มีสัดส่วนความต้องการที่อยู่อาศัย 8.7% ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท มากที่สุด คิดเป็น 29.1%

อันดับ 3 ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี มีสัดส่วนความต้องการที่อยู่อาศัย 7.2% ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท มากที่สุด คิดเป็น 27.2%

อันดับ 4 ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ มีสัดส่วนความต้องการที่อยู่อาศัย 6.2% ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท มากที่สุด คิดเป็น 29.2%

อันดับ 5 ได้แก่ จังหวัดนครปฐม มีสัดส่วนความต้องการที่อยู่อาศัย 3.8% ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท มากที่สุด คิดเป็น 32.1%

อันดับ 6 ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร มีสัดส่วนความต้องการที่อยู่อาศัย 2.6% ในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท มากที่สุด คิดเป็น 46.7%

ในขณะที่จังหวัดอื่นๆนอกพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยร่วมกันที่ 15.4%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ