นายดนุชา วีระพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ตะวันออกพาณิชย์ลิสซิ่ง (ECL) คาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถสร้างยอดสินเชื่อโดยรวมเป็นมูลค่าราว 700 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% อย่างแน่นอน
เนื่องจากในปีนี้บริษัทฯ จะทำการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่องด้วยการเพิ่มจำนวนทีมงานฝ่ายขาย และการให้บริการด้านสินเชื่อ โดยเน้นการให้บริการที่สะดวกรวดเร็ว และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น ทั้งนี้จะเน้นหนักไปที่ตลาดรถเชิงพาณิชย์มากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้รถที่ประหยัดน้ำมัน หรือซื้อรถที่สามารถใช้สร้างรายได้ให้แก่ตนเอง อาทิ รถกระบะ รถตู้ และรถแวน เพราะรถยนต์เหล่านี้นอกจากจะใช้ในการโดยสาร ยังสามารถนำไปใช้ในการบรรทุก ซึ่งหมายถึงการสร้างรายได้ให้แก่ผู้เป็นเจ้าของอีกด้วย ทำให้ที่ผ่านมารถยนต์เชิงพาณิชย์ได้รับความนิยมสูงในขณะนี้
สำหรับพื้นที่เป้าหมายยังคงเป็นพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นฐานตลาดเดิมของ ECL และจะมีการขยายตัวไปรุกตลาดที่เป็นเมืองสำคัญในภาคอื่น ๆ ด้วย
นายดนุชา กล่าวว่า ที่ผ่านมาการปล่อยสินเชื่อของบริษัทฯ มีสัดส่วนประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งแทบจะไม่มีการปรับเพิ่มฐานขึ้นมากประมาณ 2 ปีแล้ว แต่หลังจากภาวะทางการเมืองมีความชัดเจนตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดการปล่อยสินเชื่อตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว เริ่มมีการปรับตัวที่ชัดเจนมาจนถึงไตรมาส 1 ปีนี้ด้วย
นอกจากนี้การที่ภาครัฐได้ออกมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมไปถึงมาตรการทางภาษี อีกทั้งจากสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยที่อยู่ในระดับต่ำ ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนมีเงินใช้จ่ายเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้ลูกค้าระดับกลาง- ล่างปรับพฤติกรรมการใช้รถยนต์มาซื้อรถที่ประหยัดน้ำมันในลักษณะรถญี่ปุ่นหรือซิตี้คาร์ และรถยนต์เชิงพาณิชย์มากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเกื้อหนุนให้ภาพรวมธุรกิจลิสซิ่งในระดับกลาง-ล่างเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--