XPG ตั้งเป้ารายได้รวมโต 20% ฝ่าความผันผวนแตะ 1,100 ลบ.มุ่งสร้างความแข็งแกร่งทุกกลุ่มธุรกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 12, 2025 14:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

XPG ตั้งเป้ารายได้รวมโต 20% ฝ่าความผันผวนแตะ 1,100 ลบ.มุ่งสร้างความแข็งแกร่งทุกกลุ่มธุรกิจ

นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล [XPG] ประกาศความพร้อมต่อยอดความสำเร็จสู่ปี 68 สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ภายใต้แนวคิด Resilient Growth in a Challenging Landscape ก้าวอย่างมั่นคงท่ามกลางความผันผวนของตลาด ด้วยผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตอบโจทย์ทั้งภาคธุรกิจที่ต้องการเงินทุนและนักลงทุนที่แสวงหาผลตอบแทนที่ยั่งยืน มุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ที่มั่นคง รับมือกับความท้าทายของตลาด

ในปี 68 ตั้งเป้ารายได้รวม 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เติบโตด้วยธุรกิจสินเชื่อ รุกขยายฐานลูกค้า Private Credit พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจ เน้นใช้ Ecosystem ของกลุ่มบริษัทที่มีบริการทางการเงินอย่างครบวงจร ทั้งกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์และวาณิชธนกิจ ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เข้ามาต่อยอดความต้องการทางการเงินและการสร้างความมั่งคั่งของลูกค้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมยังคาดว่าจะยังเติบโตขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อนที่ 190 ล้านบาท แม้ว่าภาพรวมของการลงทุนในปัจจุบันจะเผชิญกับความผันผวน จากความไม่แน่นอนของนโยบายการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ และปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่เข้ามากระทบต่อ Sentiment การลงทุนอยู่บ้าง แต่ยังมองว่ารายได้ค่าธรรมเนียมของบริษัทยังสามารถเติบโตได้ จากการให้บริการลูกค้าที่ดีต่อเนื่อง โดยที่ตั้งเป้าพอร์ตสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) เพิ่มเป็น 1.4 หมื่นล้านบาท ในปี 68 จากปีก่อนที่ 7 พันล้านบาท

โดยบริการสำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุน XPG ยังคงมุ่งเน้นสนับสนุนลูกค้าทั้งด้านเงินทุนและองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ ผ่านธุรกิจสินเชื่อที่คาดว่าจะยังเติบโตโดดเด่นอย่างต่อเนื่องจากการที่ธนาคารพาณิชย์และสถาบันทางการเงินขนาดใหญ่มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสดังกล่าว โดยตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อในปีนี้เติบโต 10-20% จากสิ้นปีก่อนที่ 8 พันล้านบาท

ขณะที่ธุรกิจวาณิชธนกิจ พร้อมสนับสนุนลูกค้าธุรกิจระดมเงินทุนผ่านการเสนอขายหุ้นต่อนักลงทุน (IPO) และการเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO) ซึ่งมีแผนในการเสนอขายโทเคนดิจิทัลราว 3 - 5 โครงการในปีนี้ และเตรียมเงินลงทุน 1-2 พันล้านบาท เพื่อรองรับการซื้อหนี้เข้ามาบริหารในพอร์ต ซึ่งปัจจุบันมีหนี้ที่บริษัทบริหารอยู่รวม 4 พันล้านบาท

ส่วนบริการเพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการสร้างความมั่งคั่ง ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ตั้งเป้าขยายธุรกิจกองทุนและธุรกิจนายหน้าจำหน่ายกองทุนรวม (LBDU) หนุนสินทรัพย์ภายใต้การจัดการแตะระดับ 15,000 ล้านบาท โดยมีแผนออกกองทุนใหม่อย่างต่อเนื่องในปีนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนตามสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลาให้ครบทุกมิติ ประเดิมด้วยการเปิดขาย Term Funds (X-FIXED6M1R) ในวันที่ 10 มีนาคม 2568

พร้อมกันนี้ บริษัทได้เริ่มให้บริการ "XSpring Application" แพลตฟอร์มที่ช่วยอำนวยความสะดวกและยกระดับประสบการณ์ด้านการลงทุนให้กับลูกค้า เพื่อเพิ่มโอกาสสู่ความสำเร็จทางการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น แอปพลิเคชันที่ช่วยเชื่อมต่อและอำนวยความสะดวกในทุก ๆ การลงทุนของนักลงทุน ให้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ

นอกจากนี้ XPG ยังให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน มุ่งมั่นในการสร้างผลกระทบทางบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยในปี 68 จะเดินหน้าสานต่อ 2 โครงการเพื่อสังคมที่ดำเนินการมาแล้วเพื่อเพิ่มขอบเขตของการเข้าถึงความรู้ทางการเงินให้กับกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น ได้แก่ โครงการ "Because Sharing is Caring ? The Unsilenced Truths" ที่ช่วยส่งต่อความรู้ด้านการเงินและการลงทุนแก่ผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน รวมถึงการพัฒนาสื่อวีดิทัศน์พร้อมล่ามภาษามือ เพื่อให้ผู้มีความบกพร่องทางการได้ยินเข้าถึงข้อมูลด้านการเงินอย่างเท่าเทียม โดยจะขยายผลเข้าสู่โรงเรียนสอนคนหูหนวกในปีนี้ เช่นเดียวกับโครงการ "Play to Win" ที่มุ่งเน้นให้ความรู้ด้านการเงิน เพื่อให้นักกีฬามวยและบุคลากรในวงการกีฬามีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ในปีนี้บริษัทก็มีแผนขยายโครงการไปยังกีฬาประเภทอื่น เช่น กีฬากอล์ฟ เป็นต้น

"แม้ในปี 68 ตลาดจะเต็มไปด้วยความท้าทายและมีความซับซ้อนมากขึ้น จากหลายปัจจัยทั้งสภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงเศรษฐกิจไทยที่ค่อนข้างเปราะบาง เรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ และสงครามการค้า XPG ก็พร้อมเดินหน้าธุรกิจอย่างมั่นคง ขยายธุรกิจทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ตอกย้ำบทบาทผู้นำของตัวกลางเชื่อมโยงภาคธุรกิจที่ต้องการเงินและนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนที่ยั่งยืน ผ่านบริการทางการเงินที่ครบวงจร สะท้อนศักยภาพในการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการของลูกค้า" นางสาววรางคณา กล่าว

สำหรับปี 67 ที่ผ่านมา XPG ก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ด้วยความท้าทายท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวและมีความเปราะบางสูง แต่บริษัทยังคงรักษาระดับการเติบโตของผลประกอบการได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 34% อยู่ที่ 911 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% จากปีก่อนหน้า

โดยรายได้หลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่ธุรกิจสินเชื่อสามารถขยายตัวได้ดี หนุนพอร์ตสินเชื่อเติบโตแตะระดับ 8,000 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงรายได้จากเงินลงทุนและเงินปันผลเพิ่มขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวบริการ Private Credit เชื่อมโยงนักลงทุน Wealth กับลูกค้าธุรกิจ ช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้รวดเร็วและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการสร้างโอกาสทางการเงินที่มั่นคง

อีกทั้งบริษัทยังได้เสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนเควาลอน (KAVALON Token) ซึ่งเป็นโทเคนที่มีลักษณะคล้ายหนี้(Debt-liked Investment Token) ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมโทเคนดิจิทัลที่ได้เปิดให้มีการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าแค่ตัวเงิน โดยสามารถระดมทุนได้ครบ 400 ล้านบาทให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ก่อนกำหนด

นอกจากนี้บริษัทยังได้เข้าลงทุนใน บริษัท กินดื่ม จำกัด (KINDUEM) ซึ่งประกอบธุรกิจ Food & Beverage ภายใต้แบรนด์ BEANS Coffee Roasters, AROI, DEAN & DELUCA, REES, THAI THAI EATERY และ UMAMI JAPANESE IZAKAYA เพื่อขยายแหล่งรายได้จากธุรกิจที่มีศักยภาพ และกระจายความเสี่ยง สะท้อนศักยภาพการปรับตัวในภาวะตลาดการเงินที่มีความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ