(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งซึมลง กังวลสงครามการค้ารุนแรงขึ้น น้ำมันปรับลงกดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 14, 2025 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีมีโอกาสแกว่งซึมลง จากความกังวลสงครามการค้าส่อแววรุนแรงมากขึ้น หลังสหภาพยุโรป (EU) มีมาตรการเรียกเก็บภาษีบางส่วนกับสหรัฐ ซึ่งล่าสุดนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ขู่เรียกเก็บภาษีต่อผลิตภัณฑ์สุราและแอลกอฮอล์จาก EU สูงถึง 200% เพื่อตอบโต้ต่อการที่ EU เรียกเก็บภาษี 50% ต่อวิสกี้ที่นำเข้าจากสหรัฐ ซึ่งจากประเด็นดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนสูง และเป็นความเสี่ยงที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจมากขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้น

ขณะที่การเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐเมื่อคืนนี้ ต่ำกว่าคาด ทำให้การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในครั้งต่อไปคาดว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามต้องติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ปลายเดือนนี้

สำหรับปัจจัยในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่ อีกทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงเมื่อวันก่อน อาจกระทบต่อแนวโน้มกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่อาจมีดาวน์ไซด์ให้มีโอกาสปรับลงอยู่

โดยให้กรอบแนวรับ 1,150 จุด และแนวต้าน 1,180-1,190 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (13 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,813.57 จุด ลดลง 537.36 จุด หรือ -1.30%, ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,521.52 จุด ลดลง 77.78 จุด หรือ -1.39% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,303.01 จุด ลดลง 345.44 จุด หรือ -1.96%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,653.33 จุด เพิ่มขึ้น 190.68 จุด หรือ +0.81% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,361.69 จุด เพิ่มขึ้น 2.96 จุด หรือ +0.09% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ 36,606.78 จุด ลดลง 183.25 จุด หรือ -0.50%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 มี.ค.) 1,159.64 จุด ลดลง 0.42 จุด (-0.04%) มูลค่าซื้อขายราว 32,500.31 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (13 มี.ค.) 930.75 ล้านบาท
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.(13 มี.ค.) ร่วงลง 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.67% ปิดที่ 66.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 มี.ค.) อยู่ที่ 4.32 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.70 แข็งค่าสวนทางภูมิภาค ราคาทองหนุน คาดกรอบวันนี้ 33.55-33.85
  • นายกฯ ยืนยันรัฐบาล ไม่นิ่งนอนรับมือสงครามการค้า หารือ กกร.เตรียมแผน "หอการค้า" ย้ำรัฐ-เอกชน ต้องยึด โมเดลทีมไทยแลนด์เจรจาสหรัฐ ชี้เปิดตลาดการค้าได้แต่ต้องได้ประโยชน์ร่วมกัน ม.หอการค้า ประเมินภาษีทรัมป์ฉุดส่งออกไทย หาย 56,067 ล้านบาท กระทบจีดีพี 0.30% จับตา 2 เม.ย.หากทรัมป์ขึ้นภาษีรถยนต์และสินค้าอื่น อาจทำให้ส่งออกทางตรงทางอ้อมลดลงเกิน 1 แสนล้านบาท
  • สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เตรียมชงขาย 19 หุ้น ให้คลังพิจารณาสัปดาห์หน้า "ลวรณ" ปลัดคลังย้ำจะไม่ขาย "หุ้นยุทธศาสตร์ประเทศ" แต่เน้นขายหุ้นขนาดเล็กและผลประกอบการย่ำแย่ก่อนเป็นลำดับแรก หรือ Quick Win ด้าน "พิชัย" รองนายกฯ และรมว.คลังลั่น! พร้อมพิจารณาขายทันทีหากหุ้นนั้นๆ เข้าเกณฑ์ที่ถูกวางไว้ว่าจะต้องขายออก เช่น หุ้นที่คลังถืออยู่มีจำนวนหุ้นเป็นเศษทศนิยม
  • ก.ล.ต. ออกเกณฑ์รองรับการจัดตั้งและจัดการกองทุน Thai ESGX เปิดให้บลจ.ยื่นขอจัดตั้งกองทุนรวมได้ภายในเม.ย. 68 รองรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF และเงินลงทุนใหม่ช่วงพ.ค.-มิ.ย. 68 ย้ำบลจ.และตัวแทนขายหน่วยลงทุน ให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลผู้ลงทุนเกี่ยวกับเงื่อนไขในการรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามมาตรการที่ภาครัฐกำหนด
  • ทุนยานยนต์จีนสบช่อง เขตการค้าเสรี มาตรการส่งเสริมอีวี บุกไทย มองเป็นตลาดศักยภาพมีโอกาสขยายตัวสูง วางเป็นฐานการผลิต-ส่งออก เพิ่มความหลากหลายการผลิต สร้างอีโคโนมีส์ ออฟสเกล ด้านกลุ่มอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่งเริ่มขยับตัว ประเดิมร่วมงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ด้านลีสซิ่งไทยจับตาทุนจีนหาช่องแข่งขันปล่อยสินเชื่อ หวั่นต้นทุนการเงินได้เปรียบ
  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน ก.พ.68 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าจากนโยบายทรัมป์ 2.0 แม้ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้น แต่ประชาชนยังรู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ช้า ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้หอการค้ายังคงการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยทั้งปี 68 ขยายตัวให้ได้เกิน 3.0-3.5% ส่วนไตรมาส 2 คาดขยายตัว 2.5-3.0% ภายใต้ปัจจัยกระทบ เช่น ทรัมป์ 2.0 ส่งผลให้ครึ่งปีแรกจีดีพีขยายตัวได้ 3.0% ส่วนครึ่งปีหลังคาดขยายตัว 2.5-3% จากหลายปัจจัยที่เกิดขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
  • คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เตรียมประชุมภายในเดือนนี้ เพื่อพิจารณาราคาก๊าซหุงต้ม หรือก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ก่อนที่จะสิ้นสุดการตรึงราคา 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม วันที่ 31 มี.ค.68 โดยปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชดเชยราคาขายปลีกแอลพีจี อยู่ 2.4190 บาทต่อกก. หรือ 36.28 บาทต่อถังขนาด 15 กก. เพื่อให้ราคาจำหน่ายแอลพีจีในท้องตลาดอยู่ที่ 423 บาทต่อกก. ตามมติ กบง.
  • "บีโอไอ" ไฟเขียว "ซันโวด้า" ผู้ผลิตแบตเตอรี่ Top 10 ของโลก ลงทุน 5 หมื่นล้านบาท ตั้งฐานผลิตแบตเตอรี่ต้นน้ำแห่งแรกในไทย
  • ตลท.เผย บจ.ใน SET รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิรวม 8.59 แสนล้านบาท ลดลง 3.7% YoY เหตุ "กลุ่มน้ำมัน-ปิโตรเคมี-เคมีภัณฑ์" ฉุด แต่กลุ่มธุรกิจทั่วไปกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น "ท่องเที่ยว-แบงก์-นิคมอุตสาหกรรม ฯลฯ" ด้านบจ.ใน mai กำไรสุทธิรวมโต 5.55 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5% YoY

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ERW (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 6.20 บาท บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 10% ปี 68 โดยการดำเนินงานล่าสุด ไตรมาส 1/68 ยังแช็งแกร่งจากทั้ง Occupancy Rate และ ADR โดยคาดว่ารายได้จะเติบโต 10% y-y สอดคล้องกับเป้าหมายทั้งปี เราคาดกำไรปี 2568 โตต่อเนื่องเป็น 940 ล้านบาท ปัจจุบันมี Upside ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้าน Valuation ยังน่าสนใจมาก โดย Market Cap ปัจจุบันต่ำกว่าช่วงปี 2562 ขณะที่กำไรสูงกว่าปี 2562 ถึง 80-90%
  • AP (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 9.90 บาท เรามอง AP เป็น developer อันดับ 1 สร้าง presales สูงสุดสนับสนุนจากโครงการในมือมากกว่า 180 โครงการ ในทำเลที่ครอบคลุม BMA และหัวเมืองหลักในทุก Product และทุก Segment รวมถึงมี Brand ที่แข็งแกร่ง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง DE ต่ำ 0.7% สร้างความได้เปรียบด้านต้นทุนการพัฒนาและสภาพคล่องประกอบกับผู้บริหารมีประสบการณ์สูง มีการบริหารงานที่ดีและปรับตัวได้เร็ว สามารถสร้างความได้เปรียบเมื่อโอกาสมาและลดความเสี่ยงเมื่อตลาดผันผวน ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER และ PBV ที่ไม่สูงและให้เงินปันผลที่ดี
  • BCPG (เคจีไอ) เป้าพื้นฐาน 8 บาท ประเมินแนวโน้มกำไรปกติปีนี้กลับมาโตแรง จากโรงไฟฟ้าที่สหรัฐฯ ฝ่ายวิจัยฯ คาด Earnings momentum จะเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง คาดกำไรปกติโตเฉลี่ย +38% CAGR (67 - 69) จากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ (คาดได้อานิสงส์ต้นทุนพลังงานต่ำ จากนโยบายรัฐบาลสหรัฐฯใหม่) และปี 69 ได้แรงหนุนจากการ COD โรงไฟฟ้าพลังงานลมไต้หวัน Valuation ถูก Forward PE 12 เท่า และ PBV ต่ำเพียง 0.58 เท่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ