หุ้น CCET บวก 3.85% มาอยู่ที่ 6.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 52.33 ล้านบาท เมื่อเวลา 09.58 น. โดยเปิดตลาดที่ 6.65 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 6.80 บาท
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์หุ้น บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) [CCET] แนวโน้มสดใส มีศักยภาพในการเติบโตของรายได้สูงสุดในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายโรงงานเพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่จะเข้ามา นอกจากนี้ บริษัทยังมีการผลิตสินค้าที่มีความหลากหลาย ซึ่งยังอยู่ในแนวโน้มเติบโตดี เรายังไม่มีคำแนะนำสำหรับ CCET ตลาดคาดการณ์การเติบโตของกำไร 15% สำหรับปี 2025 โดยมีราคาเป้าหมาย 8.85 บาท
ด้าน บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า CCET พร้อมโตต่อจากสิ่งที่ทำมา โดย 2 เดือนแรกยอดขายโตน่าพอใจ 2 หลัก ปีนี้คาดยังโตต่อแม้ไม่แรงเหมือนปีก่อน แต่ดีกว่ากลุ่มสงครามการค้าเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม แม้อาจไม่ส่งผลกระทบต่อการขาย แต่อาจส่งผลต่ออุปสงค์ตลาดโลกให้ฟื้นตัวช้ากว่าคาดได้ มองเป็นหุ้นอิเล็คฯที่โดดเด่น และราคาถูกสุดในปีนี้
แม้ว่าผู้บริหารจะไม่ให้เป้าหมายยอดขายปี 68 ว่าจะเติบโตเท่าใด แต่ยอดขาย 2 เดือนแรกที่รายงานออกมาที่ 691 ล้านเหรียญเพิ่มขึ้น +18% y-y อาจทำให้พอคาดเดาได้ว่าปีนี้ยอดขายจะเติบโตในทิศทางเดียวกัน ยอดขายที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการขยายกำลังการผลิตโรงงาน 16 (อ.มหาชัย) สำหรับผลิต SSD ที่ได้เริ่มผลิตแล้วตั้งแต่ Q4/67 และคาดจะมีสินค้ากลุ่ม Data center มาเพิ่มอีกในอนาคต ส่วนใน H1/68 จะเริ่มผลิตสินค้ากลุ่มเครื่องพิมพ์ที่โรงงาน 15 (จ.เพชรบุรี)
ขณะที่โรงงาน 13 และ 14 อยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้า ซึ่งจะเป็นส่วนเพิ่มต่อประมาณการในปี 69 เป็นต้นไป โดยการขยายกำลังการผลิตโรงงานทั้ง 2 แห่ง(15 และ 16) ทำให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% จากเดิม
Global Minimum Tax (GMT) คาดไม่กระทบ ผบห. ชี้แจงว่าผลกระทบค่อนข้างจำกัด แม้ปัจจุบันอัตราภาษีจ่ายของ CCET จะอยู่ที่เพียง 3.12% ก็ตาม แต่ CCET เผยว่าสามารถนำค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินเดือน และค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่มีตัวตนมาหักลดหย่อนได้ทำให้ผลกระทบจากมาตรการนี้จะค่อนข้างจำกัด
แนวโน้มปี 68 คาดการดำเนินงานจะยังดีต่อเนื่องจากการที่ CCET เน้นการผลิตสินค้าใหม่ ๆ มากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และยังมีอัตรากำไรที่สูงกว่าสินค้าเดิม
ในการประชุมนักวิเคราะห์แม้สิ่งที่ฟังนี้อาจเป็นเรื่องที่ตลาดพอทราบถึงแนวโน้มการเติบโตของบริษัทว่าจะเป็นไปอย่างไร แต่สิ่งที่ดีขึ้นคือยอดขายกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งจากขยายกำลังการผลิตไปก่อนหน้า แม้ CCET ไม่ได้แจ้งเป้าหมายแต่ยอดขายรายเดือนที่จะออกมาพอเป็นตัวบ่งชี้ถึงการเติบโตได้ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นเป็นสิ่งที่ต้องติดตามต่อว่าจะดีอย่างที่คาดหรือไม่
เรายังมีมุมมอง "บวก" ต่อภาพการดำเนินงานปี 68 ว่ายังขยายตัวได้ต่อเนื่องจากสิ่งที่ทำไปก่อนหน้า และคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตมาไทยไม่ว่าสหรัฐจะกีดกันจีน หรือจีนกีดกันไต้หวัน ปรับราคาเหมาะสมเบื้องต้นปี 68 อยู่ที่ 9.00 บาท/ หุ้น ปรับเป้าหมาย P/E เหลือ 25.0x สะท้อนความผันผวนของกลุ่มที่มากขึ้น ประกอบกับงบ 4Q24 ที่ออกมาต่ำคาด
อย่างไรก็ดีในแง่ Valuation CCET ซื้อขายที่ PEG25E เพียง 0.5x ต่ำกว่ากลุ่มที่ 2.4x ทำให้ CCET ยังคงน่าสนใจที่สุดในกลุ่ม ส่วนความเสี่ยงสำคัญที่ต้องตาม คือ แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้น และเศรษฐกิจโลกถดถอยอาจส่งผลต่อคำสั่งซื้อได้