
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น [WHA] กล่าวว่า แผน IPO ของ WHAID และการปรับโครงสร้างการถือหุ้นใน WHAUP ได้มีการเตรียมการมาระยะเวลาหนึ่ง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาวางแผน และการเตรียมการร่วมกับที่ปรึกษาในด้านต่างๆมาอย่างรอบคอบในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทเชื่อมั่นว่าแผน IPO นี้ จะสามารถสร้างประโยชน์ เพิ่มความสามารถในการเติบโต และเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัท และผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาว
อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์ที่สภาวะตลาดทุนของประเทศไทยมีความผันผวนมากในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ประกอบกับการที่บริษัทฯ ได้รับฟังมุมมองและข้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากนักวิเคราะห์ นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายย่อย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง หลังจากการประกาศแผน IPO ของ WHAID ก่อนหน้านี้ บริษัทจึงได้ตัดสินใจที่จะชะลอแผน IPO ของ WHAID และการปรับโครงสร้างการถือหุ้นใน WHAUP ออกไปก่อน เพื่อให้การดำเนินธุรกรรมดังกล่าวเกิดประโยชน์สูงสุด และมีความชัดเจนต่อผู้ถือหุ้นโดยบริษัทจะติดตามและประเมินปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ทั้งสภาวะเศรษฐกิจและแนวโน้มตลาดทุน ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อตลาดทุนของประเทศไทย ตลอดจนผลการดำเนินงานและโอกาสการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัท
บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการสร้างความเติบโตของธุรกิจ ตลอดจนการสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสียในทุกส่วน สอดคล้องกับพันธกิจ "WHA: WE SHAPE THE FUTURE" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับผู้คน สังคม และประเทศไทยต่อไป ซึ่งบริษัทสามารถใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และการจัดหาแหล่งเงินทุนต่างๆ มาลงทุนตามแผนธุรกิจและงบลงทุน โดยยังคงรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน (D/E) ในระดับต่ำกว่า 1.20 เท่า แม้จะชะลอแผน IPO ของ WHAID ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อ 5 กลุ่มธุรกิจหลักของ WHA ได้แก่ ธุรกิจโลจิสติกส์, ธุรกิจโมบิลิตี้ (ภายใต้แบรนด์ Mobilix), ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม, ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน และธุรกิจดิจิทัล
นางสาวจรีพร กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้ตัดสินใจชะลอและเลื่อนแผนการ Spin-off นำ WHAID เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงการปรับโครงสร้างการถือหุ้น WHAUP ยืนยันว่าแผนดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นภายในช่วง 2 ปีนี้ ซึ่งบริษัทได้มีการปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงิน คณะกรรมการบริษัท และทีมผู้บริหารของบริษัทแล้ว มองว่าการชะลอออกไปเป็นแนวทางที่ดีที่สุด และสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นของ WHA และนักลงทุนกลับมาได้
ขณะที่ยืนยันว่าการเลื่อนแผน WHAID ออกไปนั้นไม่ได้กระทบต่อแผนการใช้เงินลงทุนขยายธุรกิจของกลุ่ม WHA และไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อฐานะการเงินของบริษัท เพราะบริษัทยังมีเงินสดและสภาพคล่องเพียงพอต่อการชำระคืนหนี้ โดยเฉพาะหุ้นกู้ที่ได้เสนอขายไปเป็นจำนวนมาก และสัดส่วนเพียง 20% ที่เป็นเงินกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ ยังคงชำระคืนหนี้ตามปกติ มั่นใจได้ว่าสถานะการเงินของ WHA ยังคงมีความแข็งแกร่ง
"ยอมรับว่าเราอาจจจะมีการสื่อสารที่ผิดพลาดออกไป ทำให้นักลงทุนที่ฟังแล้วไม่เข้าใจ และขาดความเชื่อมั่นเราไป แต่เราก็กลับมาคิดทบทวนจึงตัดสินใจเลื่อนแผนดังกล่าวไป ซึ่งทำให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ และเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีให้กับ WHA กลับมา ซึ่งก็อยากให้กลับมามองภาพรวมในระยะยาวของ WHA ที่เรายังคงทำธุรกิจที่อยู่ในเมกะเทรนด์ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นของ WHA ทุกคน" นางสาวจรีพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้ปิดโอกาสในการที่จะไม่นำบริษัทในเครือเข้าตลาดหุ้นแต่อย่างใด แต่ยังรอจังหวะเวลาที่พร้อม รวมถึงภาพรวมของตลาดหุ้นที่ดีขึ้น ซึ่งอาจจะมีการนำกลับมาพิจารณาแผนการนำบริษัทในเครือเข้าตลาดอีกครั้ง รวมถึงยังเปิดโอกาสในการนำบริษัทในเครือไปเข้าตลาดหุ้นต่างประเทศได้ด้วยเช่นกัน หากตลาดหุ้นในประเทศที่นั้นมีความน่าสนใจ เช่น ตลาดหุ้นเวียดนาม ซึ่งบริษัทไม่ได้มีการปิดโอกาสดังกล่าว
ส่วนแนวโน้มภาพรวมของบริษัทในไตรมาส 1/68 คาดว่าจะยังเห็นผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทยังคงเดินหน้าในการเจรจาขายที่ดิน และส่งมอบที่ดินให้ลูกค้าที่เซ็นสัญญาซื้อที่ดินจากบริษัท ซึ่งในไตรมาส 1/68 จะเห็นการดอนที่ดินส่งมอบให้กับลูกค้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งค้างมาจากปลายปีที่แล้ว ทำให้จะเห็นยอดโอนที่ดินเติบโตสูง และบริษัทยังมั่นใจว่าจะสามารถทำกำไรในปี 68 New high ต่อเนื่องได้เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน