
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดหุ้น และติดตามการดำเนินมาตรการสร้างความเชื่อมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังคับใช้กฎหมายให้เร่งดำเนินการอย่างเคร่งครัดและรวดเร็ว พร้อมกันนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนในการเร่งรัดแก้ไขกฎหมายเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่น โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการกระทำผิดในตลาดหุ้น ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมาย เช่น การให้ ก.ล.ต. เป็นพนักงานสอบสวน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ติดตามความคืบหน้าคดีที่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจและส่งผลต่อคนจำนวนมาก เช่น STARK รวมทั้งติดตามมาตรการในการสร้างความน่าสนใจให้กับตลาดหุ้น และกำชับให้มีการดำเนินการอย่างเคร่งครัดกับบริษัทจดทะเบียนที่ปฏิบัติไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่น การกระจายการถือหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อย (free float)
น.ส.แพทองธาร โพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียถึงการติดตามสถานการณ์ตลาดหุ้นไทย และการเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้คืนกลับมา โดยระบุว่า ตลาดหุ้นไทย เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่รัฐบาลติดตามและให้ความสำคัญมาโดยตลอด โดยวันนี้ได้เชิญเลขาธิการ ก.ล.ต. , ผู้จัดการ ตลท.และ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้ามาพูดคุยติดตามเรื่องสถานการณ์ในตลาดหุ้น และคดีทางการเงินที่เป็นปัญหา
โดยได้เน้นย้ำ 4 เรื่องสำคัญ ดังนี้
1. กำชับและติดตามคดีที่มีผลกระทบต่อผู้คนเป็นจำนวนมาก และกระทบทางเศรษฐกิจ โดยเร่งรัดติดตามให้คดีมีความคืบหน้าโดยเร็ว
2. แก้ไขกฎหมายเพื่อป้องกันการกระทำผิดในตลาดหุ้น โดยปรับปรุงกฎเกณฑ์ ยกระดับไม่ให้มีการกระทำแบบนี้เกิดขึ้นอีก เช่น ปรับปรุงกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์
3. กำชับถึงข้อกำหนดที่จะจัดการเรื่อง free floot ลงโทษบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ทำผิดหลักเกณฑ์ได้ โดยการให้ออกจากตลาด
4. เน้นย้ำให้มีการใช้กฎหมายครบทุกมิติ เพื่อฟื้นความมั่นใจอย่างเร่งด่วนและเป็นธรรม
"เรื่องนี้ถือเป็นภารกิจของรัฐบาล ในการสร้างความเชื่อถือและเชื่อมั่น (trust and confidence) ในด้านการใช้กฎหมายเพื่อให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจ เชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทย ให้ตลาดหุ้นไทยแข่งขันได้ในเวทีสากล" นายกรัฐมนตรี ระบุ
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า ในช่วงที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้มีการปรับกระบวนการทำงานภายในให้กระชับและรวดเร็วขึ้น ซึ่งเห็นผลเป็นรูปธรรมว่ามีการดำเนินการที่รวดเร็วขึ้น เช่น ตั้งแต่ต้นปี 2568 ได้บังคับใช้กฎหมายจำนวน 15 กรณี โดยมีผู้กระทำผิดประมาณ 40 ราย สำหรับระยะเวลาในการดำเนินการโดยเฉลี่ยสั้นลง และบางกรณีใช้เวลาน้อยกว่า 1 ปี
นอกจากนี้ ได้ร่วมกับ ตลท.ในการดำเนินมาตรการกำกับดูแลการซื้อขายในตลาดหุ้นให้เกิดความเป็นธรรมโปร่งใส รวมทั้ง ก.ล.ต. ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงหลักเกณฑ์การรายงานข้อมูลของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนกรณีนำหุ้นไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในธุรกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ลงทุนได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายหลักทรัพย์เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนไทยให้เข้มแข็ง
ด้านนายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ได้รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการในคดีต่าง ๆ ในตลาดทุน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ ยังได้นำเสนอโครงการที่ได้ดำเนินการเพื่อพัฒนาตลาดทุนและบริษัทจดทะเบียน ได้แก่ โครงการ JUMP+ ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทจดทะเบียน เพื่อสร้างการเติบโตให้กับตลาดทุนไทย และรายงานความคืบหน้าการปรับปรุงมาตรการและเกณฑ์ต่างๆ โดยล่าสุดอยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็น "การทบทวนการกำกับดูแลการขายชอร์ต และ HFT" เพื่อให้มาตรการกำกับดูแลเหมาะสมกับสภาวะการซื้อขายในปัจจุบัน ซึ่งเปิดให้แสดงความคิดเห็นจนถึง 31 มีนาคม 2568