นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ [BEM] กล่าวว่า จากเหตุคานก่อสร้างทรุดตัวช่วงด่านเก็บค่าผ่านทางด่วนดาวคะนองจนทำให้ไม่สามารถสัญจรได้ทั้งขาเข้าและขาออก บริษัทได้รับผลกระทบน้อยมาก เพราะจำนวนรถที่ใช้ด่านดาวคะนองมีเพียง 3 หมื่นคัน/วัน จากปริมาณการจรจาบนทางด่วนทั้งหมด 1.1 ล้านคัน/วัน ซึ่งบริษัทได้รับส่วนแบ่ง 40% เท่านั้น และผู้ใช้ทางไม่ได้หายไปเพราะยังสามารถย้ายไปใช้ด้านอื่นได้
ราคาหุ้น BEM ปรับตัวลง บริษัทฯก็ไม่ทราบสาเหตุ แต่ที่เปิดเผยได้ว่า บริษัทยังมีรายได้ในเกณฑ์ที่ดี ผู้ใช้รถบนทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าก็ยังเติบโตดี ซึ่งผู้โดยสารรถไฟฟ้าปี 68 คาดเติบโตมากกว่า 10% หรือเฉลี่ย 4.7 แสนคน/วัน
วันนี้ (18 มี.ค.)หุ้น BEM ปิดที่ 5.40 บาท ลดลง 0.15 บาท (-2.70%) มูลค่าซื้อขาย 554.77 ล้านบาท
ส่วนความกังวลต่อนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น กรรมการผู้จัดการ BEM ระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ เพราะบริษัทจะได้รับการชดเชยส่วนต่างที่หายไป รายได้ที่บริษัทเคยได้รับก็ยังคงอยู่ ขณะเดียวกัน ราคาโดยสารรถไฟฟ้าที่ปรับเหลือ 20 บาทก็มีโอกาสจูงใจให้ประชาชนมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ก็จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น ไม่ขาดทุน โดยย้ำว่าสัญญาสัปมทานรถไฟฟ้าของบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบ โดยเงื่อนไขการปรับขึ้นค่าโดยสารทุก 2 ปีตามดัชนีผู้บริโภค (CPI) ก็ยังคงอยู่
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม คาดว่าจะเปิดให้บริการฝั่งตะวันออกก่อนกำหนดในเดือน ม.ค.71 โดยอาจจะเปิดได้ในไตรมาส 4/70 ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนทดลองนั่งฟรีก่อน 3-4 เดือน เบื้องต้นทางซีเมนส์จะทยอยส่งรถไฟฟ้าใช้สำหรับกับสายสีส้มและสายสีน้ำเงินสลับมาให้ใช้งานเพิ่ม เพราะคาดว่าผู้ใช้รถไฟฟ้าสายสีส้มจะโดยสารต่อไปยังสายสีน้ำเงินราว 80%
ด้านโครงการทางด่วน 2 ชั้น (Double Deck) โครงการนี้เป็นความต้องการภาครัฐ ซึ่งได้ตกลงในหลักการกันเรียบร้อยแล้วว่า BEM จะเป็นผู้ลงทุนและสร้าง Double Deck วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท แลกกับการต่ออายุสัมปทานไป 22 ปี 5 เดือน ขณะนี้รอการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แก้ไขปรับปรุงสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 เพื่อนำเข้าเป็นโครงการร่วมทุนเอกชน (PPP) คาดว่าปีนี้ได้ความชัดเจน
ขณะที่การเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งขณะนี้งานโยธามีความคืบหน้าอย่างมาก นายสมบัติ เชื่อว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รฟม.) จะเจรจากับบริษัทก่อนที่งานก่อสร้างจะแล้วเสร็จ 2 ปี โดยอย่างเร็วที่สุดน่าจะหารือกันในปลายปีนี้ หรือไม่ก็ต้นปีหน้า เพราะต้องมีเวลาให้บริษัทฯสั่งรถไฟฟ้าใหม่เข้ามา
นอกจากนี้ BEM ยังมีโอกาสเพิ่มเส้นทางใหม่เข้ามาบริหาร ตามที่นโยบายกระทรวงคมนาคมจะมีรถไฟฟ้าเส้นใหม่ 3 เส้นทาง ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ รถไฟฟ้าสายสีฟ้า ช่วงดินแดง-สาทร และรถไฟฟ้าสายสีเงิน สายบางนา-สุวรรณภูมิ และโครงการทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์)
"เรามั่นใจเราเป็นบริษัทที่มั่นคงยั่งยืน มีสัมปทานที่ดี ไม่มีใครทำทางด่วนมาแข่ง ไม่มีรถไฟฟ้ามาทำแข่งกับเราอีกเพราะรัฐบาลไม่ต้องทำแข่ง และก็ไม่มีระบบอื่นที่จะมาทดแทนระบบรถไฟฟ้า และอันนี้ก็อยู่ใจกลางเมือง เราก็จะได้ขยายอายุสัมปทานไป ให้หาง S-Curve ของเรายาวขึ้น Divided ก็จะ link ไปกับกำไรที่เพิ่มขึ้น"นายสมบัติ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"