WealthMePlease: หุ้นสหรัฐปรับฐาน!! เอางัยดี? จะทิ้ง หรือ รอจังหวะเข้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 18, 2025 18:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตั้งแต่ต้นปี 68 ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงมาจากที่ดีดขึ้นไป 2 ปีติดต่อกัน โดยดัชนี S&P500 ลงมา 4.33% (YTD) และดัชนี Nasdaq ลงไป 5.92% (YTD) จากการปรับฐานของหุ้นกลุ่มเทคฯ หลังจากขึ้นไปมากแล้ว

นับจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปลายปี 67 ได้สร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นทั่วโฃก จากนโยบาย "ทรัมป์ 2.0" เรียกเก็บภาษีนำเข้า (Tariff) กับหลายประเทศคู่ค้าสำคัญ ทำให้เกิดความกังวลสงครามการค้ารุนแรงมากขึ้นหลังจากเริ่มเห็นจีนตอบโต้กลับ

รวมถึงความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น รับผลกระทบต้นทุนการนำเข้าเพิ่มขึ้นจากนโยบายภาษีนำเข้าของ "ทรัมป์" จนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องตรึงดอกเบี้ยไว้ เพื่อรอความชัดเจน เพราะยังไม่แน่ใจนโยบาย "ทรัมป์" นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มเห็นไม่ค่อยดี ทำให้เกิดความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เหล่านี้เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา

แล้วตลาดหุ้นสหรัฐยังน่าลงทุนอยู่หรือไม่ ถ้าใช่จะจับจังหวะอย่างไร "Wealth Me Please" EP นี้มาพูดคุยกับนายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.จิตตะ เวลธ์ (JITTA)

นายตราวุทธิ์ มองว่า ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวนในระยะสั้น จากนโยบายทรัมป์ปรับขึ้น Tariff จะเพิ่มต้นทุนสินค้ากับผู้บริโภคสหรัฐเอง อีกทั้งการปรากฎตัวของ DeepSeek บริษัทเทคจากจีนที่สามารถสร้าง AI ด้วยต้นทุนต่ำกว่า Nvidia ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หุ้นกลุ่มเทคฯ สหรัฐปรับฐานลงมาด้วย

อย่างไรก็ดี "ทรัมป์" เป็นนักธุรกิจคนหนึ่งที่บริหารงานด้วยสไตล์ "เถ้าแก่" ดังนั้น การบริหารจัดการน่าจะทำได้เร็วและเด็ดขาด โดยในวาระที่เขาอยู่ตำแหน่งประธานาธิบดี เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะเป็นบวกได้แน่นอน แม้ว่าระยะสั้นตลาดหุ้นสหรัฐมีโอกาสปรับฐานลงมาบ้าง แต่เชื่อว่า Fund Flow ยังมีอยู่มาก เพราะมีบริษัททำธุรกิจหลากหลาย และมีรายได้จากต่างประเทศค่อนข้างมาก หากเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยก็จะไม่ค่อยกระทบกับบริษัทขนาดใหญ่มากนัก

นายตราวุทธิ์ แนะให้ติดตามตลาดหุ้นสหรัฐไปก่อน รอให้แน่ใจว่านิ่งแล้ว และจับตาว่าทิศทางนโยบายการเงินจะเป็นอย่างไร ค่อยเข้าไปลงทุน โดยอาศัยจังหวะงบไตรมาส 1/68 ออกมาก่อน เพื่อให้พอจะเห็นทิศทางชัดขึ้นว่าบริษัทต่าง ๆ จะรับผลกระทยจากนโนบาย "ทรัมป์" อย่างไรบ้าง หากทุกอย่างดูโอเค Fund Flow ก็น่าจะกลับมา

แต่ไม่แนะนำหุ้นเทคฯ เพราะราคาขึ้นไปมากแล้ว และยังมีความเสี่ยงด้านการแข่งขันจากเทคฯจีน แนะหุ้นธีม HealthCare ที่มีน้ำหนักอันดับ 2 รองจากกลุ่มเทคฯ ในดัชนี S&P500 ราคายังปรับขึ้นไม่มาก หรือกลุ่มเทคฯ ขนาดเล็กที่ได้ประโยชน์จาก AI ต้นทุนต่ำ ยังมีกลุ่ม Consumer ที่ขายสินค้าราคาถูก อนาคตยังสดใส

หรือหากเป็นนักลงทุนระยะยาว แนะซื้อสะสมดัชนี S&P500 ได้ โดยไม่ต้องจับจังหวะ พร้อมประเมินว่ามีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทน 8-10%

สุดท้าย แนะนำว่าไม่ควรทิ้งหุ้นสหรัฐไปเลย แต่ควรมีติดไว้ประมาณครึ่งหนึ่งของพอร์ต

https://youtu.be/JGg62ylj7Fs


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ