นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซินเน็ค(ประเทศไทย) คาดว่า รายได้ของบริษัทในปี 2551 เติบโตได้ในอัตรา 15-20% จากปี 2550 ที่มีรายได้ 10,800 ล้านบาท โดยหลังจากนี้บริษัทยังเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ลงสู่ตลาด การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การเพิ่มการให้บริการหลังการขาย การเพิ่มตัวแทนและช่องทางการจำ ตลอดจนการเข้าสู่มาตรฐานอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้สินค้าของบริษัท ได้รับการตอบรับมาตรฐานเช่นเดียวกับสินค้าอินเตอร์แบรนด์อื่น ๆ ทั่วโลก
อีกทั้งจากผลประกอบการในไตรมาส 1/51 บริษัทมีรายได้ทั้งสิ้น 2,395.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปี 2549 ที่มีรายได้ 2,464 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 40.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปี 2549 ที่มีกำไรสุทธิ 30.08 ล้านบาท
รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากยอดขายสินค้าของบริษัทที่เติบโตขึ้น โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มคอมพิวเตอร์ ทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา (Notebook) โดยบริษัทฯ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Asustek และ BenQ และ เครื่องคอมพิวเตอร์ภายใต้ตราสินค้า Lemel ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทเอง ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้มียอดขายเติบโตอย่างโดดเด่น
"ในไตรมาสแรกรายได้เราเติบโตในอัตรา 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 49 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่เติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่เราวางไว้ที่ 15% ในขณะเดียวกันถือว่าเติบโตสูงกว่าตลาดรวมคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ ระบบสารสนเทศ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งเติบโตในอัตรา 12% ประกอบกับต้นทุนของเราไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นตามยอดขาย จึงทำให้มาร์จิ้นปรับตัวดีขึ้นจาก 5.7% ในปี 50 มาเป็นกว่า 6% ในไตรมาสแรกของปีนี้ จึงทำให้กำไรเราเติบโตได้อย่างโดดเด่นอย่างที่เห็น" นายสุพันธุ์ กล่าว
ปัจจุบัน ซินเน็ค (ประเทศไทย) อยู่ระหว่างขั้นตอนการเตรียมเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่อประชาชน (IPO) และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญและหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิต่อกรรมการและพนักงานของ บริษัท เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2551 โดยคาดว่าจะกระจายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ จำนวน 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้กับประชาชนทั่วไปได้ในเดือนมิถุนายนนี้ และคาดว่าหุ้น IPO จะเข้าทำการซื้อขายได้ภายในไตรมาสที่ 2/2551
ทั้งนี้ 3 บริษัทหลักทรัพย์ ชั้นนำมอง บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) มีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างโดดเด่น ตามทิศทางของอุตสาหกรรม โดยให้ราคาเหมาะสมในกรอบ 3.38-4.27 บาท/หุ้น โดยใช้วิธีเทียบกับหุ้นในธุรกิจใกล้เคียงและอยู่ในกลุ่มเดียวกัน อิงการเติบโตของผลกำไรในปี 2008 และ 2009 โดย บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) มองผลกำไรปี 2008-2009 มีโอกาสเติบโต21.3% และ 30.0% จึงให้ราคาเหมาะสมที่ 4.00-4.27 บาท/หุ้น ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์สินเอเซีย จำกัด ให้ราคาเหมาะสม 3.38 บาท/หุ้น และ บริษัทหลักทรัพย์แอ๊ดคินซัน ให้ราคาเหมาะสม 3.60 บาท/หุ้น
บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าในกลุ่มคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ ระบบสารสนเทศ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ มากกว่า 50 ตราสินค้า จากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก และมีฐานลูกค้าที่เป็นร้านค้าทั้งหมดมากกว่า 5,000 ราย แบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 8 กลุ่มธุรกิจ คือ
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--