ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 371,026 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 24, 2025 14:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (17 - 21 มีนาคม 2568) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 371,026 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 74,205 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 21% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 49% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 182,853 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาล ที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 150,579 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 17,969 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41% และ 5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB284A (อายุ 3.1 ปี) LB29NA (อายุ 4.7 ปี) และ LB436A (อายุ 18.3 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 15,514 ล้านบาท 12,883 ล้านบาท และ 10,749 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด รุ่น ICBCTL256A (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 995 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) รุ่น THANI282B (A-) มูลค่าการซื้อขาย 915 ล้านบาท และหุ้นกู้ของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) รุ่น PTTGC276A (AA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 643 ล้านบาท

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลง 4-9 bps. หลังจากเฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปีนี้ แม้ว่าผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันที่ 18-19 มี.ค. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 4.25-4.50% ตามการคาดการณ์ของตลาด ด้านผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เมื่อวันที่ 18-19 มี.ค. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ระยะสั้นไว้ที่ระดับ 0.5% สอดคล้องกับคาดการณ์ของตลาด เนื่องจาก BOJ ต้องการใช้เวลาในการประเมินผลกระทบจากปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ขณะที่องค์การ เพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวสู่ระดับ 3.1% และ 3.0% ในปีนี้และปีหน้าตามลำดับ จากการตั้งกำแพงภาษีในกลุ่มประเทศ G20

สัปดาห์ที่ผ่านมา (17 - 21 มีนาคม 2568) กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 551 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิ ในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 3,469 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 2,918 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ

หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้

ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price Index) เปลี่ยนเป็น ดัชนีหุ้นกู้เอกชน(MTM Corp Bond Gross Price Index) ตั้งแต่ ม.ค. 2565

ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย                                    สัปดาห์นี้         สัปดาห์ก่อนหน้า      เปลี่ยนแปลง            สะสมตั้งแต่ต้นปี
                                                      (17 - 21 มี.ค. 68)   (10 - 14 มี.ค. 68)            (%)  (1 ม.ค. - 21 มี.ค. 68)
มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท)              371,025.77          468,826.19        -20.86%           4,725,552.07
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท)                                 74,205.15           93,765.24        -20.86%              84,384.86
ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index)                      109.52              109.01          0.47%
ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (MTM Corp Bond Gross Price Index)                    108.05              107.86          0.18%


เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --%
ช่วงอายุของตราสารหนี้                     1 เดือน     6 เดือน     1 ปี     3 ปี     5 ปี     10 ปี     15 ปี     30 ปี
สัปดาห์นี้ (21 มี.ค. 68)                     1.88       1.87    1.86    1.77    1.82     2.04     2.27     2.71
สัปดาห์ก่อนหน้า (14 มี.ค. 68)                1.92       1.91     1.9    1.85    1.91     2.13     2.35     2.75
เปลี่ยนแปลง (basis point)                   -4         -4      -4      -8      -9       -9       -8       -4

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ