นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์หลังจากปัจจัยการเมืองคลายตัวหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจจบแล้ว และคาดว่าคะแนนะเสียงในสภาฯ ลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเชื่อว่าผ่านฉลุย ขณะที่บริษัทจดทะเบียนทยอยซื้อหุ้นคืน ซึ่งล่าสุด HMPRO ต่อจาก PTT ประกาศซื้อหุ้นคืน มองว่าน่าจะช่วยพยุงตลาดไว้ได้ ในช่วงที่ตลาดไม่มีปัจจัยบวก
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังรับแรงกดดันนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นออกต่อเนื่อง โดยสัปดาห์นี้มูลค่าการซื้อขายเบาบางมาก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าไทยจะได้รับผลกระทบที่สหรัฐจะขึ้นภาษีนำเข้า ซึ่งไทยมีความเสี่ยงปานกลางที่สหรัฐจะขึ้นภาษีตอบโต้ ทำให้นักลงทุนกังวล เพราะเศรษฐกิจไทยอ่อนแออยู่แล้ว ถ้ามีเรื่องนี้ก็อาจจะยิ่งซ้ำเติม นักลงทุนจึงชะลอการลงทุน แต่ก็ต้องดูท่าทีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่ดูจะยืดหยุ่นขึ้น
พร้อมให้แนวรับที่ 1,180 จุด หากหลุดให้แนวรับถัดไป 1,170 จุด แนวต้าน 1,200 จุดที่เป็นแนวต้านหลัก
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (25 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,587.50 จุด เพิ่มขึ้น 4.18 จุด หรือ +0.01%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,776.65 จุด เพิ่มขึ้น 9.08 จุด หรือ +0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,271.86 จุด เพิ่มขึ้น 83.26 จุด หรือ +0.46%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,106.66 จุด เพิ่มขึ้น 326.12 จุด หรือ +0.86%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,460.31 จุด เพิ่มขึ้น 116.06 จุด หรือ +0.50% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ระดับ 3,365.67 จุด ลดลง 4.31 จุด หรือ -0.13%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 มี.ค.) 1,184.93 จุด ลดลง 5.13 จุด (-0.43%) มูลค่าซื้อขาย 30,792 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (25 มี.ค.) 2,747.61 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. (25 มี.ค.) ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.16% ปิดที่ 69.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 มี.ค.) อยู่ที่ 3.16 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.82 แข็งค่ารับดอลลาร์อ่อนหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแย่กว่าคาด
- ผู้นำสหรัฐเตรียมประกาศ ภาษีนำเข้ารถในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พร้อมยืนยันว่าบางประเทศจะได้รับ "การยกเว้นภาษี ตอบโต้" ที่จะประกาศวันที่ 2 เม.ย.นี้ ขณะที่อียู-อินเดียเร่งเดินหน้าล็อบบี้อย่างหนัก ก่อนเดดไลน์ "รอยเตอร์ส" รายงาน 3 เดือน ภาษีทรัมป์ฉุดทุนไหลออกหุ้นอาเซียน 1.4 แสนล้าน
- "พิชัย" ยอมรับศก.ไทยไม่ดี โตแค่ 1.9 % มานาน 6 เดือนผ่านมาโต3.1% แต่อย่าสิ้นหวัง มั่นใจทำจีพีดีถึงเป้า เผยโครงการซื้อหนี้ปชช. เปิดได้ 3 วัน มีเข้ามา 4.5 แสนบช. โวหากควบคุมได้-กำกับดี จะช่วยแก้ปัญหาตัวเล็กๆ ได้แน่นอน "พิชัย นริพทะพันธุ์"ขอคนไทยเชื่อมั่น เดินหน้าปรับโครงสร้างเศรษฐกิจต่อเนื่อง นายกฯเดินทาง ตปท. เรียกความเชื่อมั่นได้
- ค่ายรถหวั่นสงครามราคา ฉุดความเชื่อมั่นลูกค้าชะลอซื้อ ซ้ำเติมตลาดหดตัวต่อเนื่อง หลังราคาปรับลดแล้วกว่า 30% หวังบทเรียนแข่งขัน ปรับบริหารจัดการสมดุลขึ้น "ซีเกอร์" มั่นใจปีนี้ผ่อนคลาย หลายค่ายแก้ปัญหาสต็อกล้น เหตุประเมินตลาดพลาด ส.อ.ท.เผย ยอดขายรถในประเทศ ก.พ.2568 ลด 6.68% ส่งออก หด 8.34% ฉุดยอดผลิตเหลือ 115,487 คัน วูบ 13.62% ชงรัฐดึงนอนแบงก์-ไฟแนนซ์รถเข้าร่วม "รถกระบะพี่ มีคลังค้ำ"
- ศึกชิงเค้กธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน 2.2 แสนล้านบาท การบินไทยจับมือบางกอกแอร์เวยส์ จ่อทุ่ม 1 หมื่นล้านบาท ลงทุน MRO อู่ตะเภา ด้านอีอีซี ยันจะใช้วิธีเปิดให้เช่าพื้นที่ เชิญเข้ามาลงทุน ขณะที่ CAAT-ทอท.วางแผนแม่บทดึงลงทุนศูนย์ซ่อมสนามบินสุวรรณภูมิ ด้าน ฟอร์ท เอ็มอาร์โอ สนามบินดอนเมือง รวมถึงโรงซ่อมเครื่องบินที่เชียงราย จะเริ่มก่อสร้างในปีนี้
- อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดภารกิจสำคัญปี 68 เผยนโยบายเปลี่ยนผ่านอุตฯยานยนต์ไทยสู่ EV ฉุดภาษีรถยนต์วูบเกือบ 50% ชี้ต้องยอมแลกเม็ดเงินเพื่อความยั่งยืนระยะยาว เตรียมชง ครม. ปรับภาษีรถ "ปลั๊กอิน-ไฮบริด" ใหม่เหลือ 5% กรณีวิ่งได้ไกลกว่า 80 กิโลเมตรต่อการชาร์จปลดล็อกตัดทิ้งเงื่อนไข "ขนาดถังน้ำมัน" ชี้ได้อานิสงส์ทั้งค่ายยุโรป-ญี่ปุ่น เผยช่วยต่ออายุซัพพลายเชนรถสันดาปช่วงปรับตัว ขณะที่ค่ายอีวีจีนชักแถวขอผ่อนปรนเงื่อนไข "ขยายเวลา" การผลิตชดเชยหลังภาวะตลาดซบเซาหนัก ปักธงปี'73 เตรียมใช้โครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมเร่งปรับโครงสร้างภาษีแบตฯ เป็นขั้นบันได
- ทล.เตรียมเสนอ "มอเตอร์เวย์ M8" เฟสแรก "นครปฐมปากท่อ" กว่า 6 หมื่นล้านเข้าคมนาคม ชง ครม.เคาะ คาดเริ่มสร้างปี 70 ปักธงเปิดใช้ปี 74 ส่วนเฟส 2 "ปากท่อ-ชะอำ" จ้างศึกษาหาแนวเส้นทางใหม่
*หุ้นเด่นวันนี้
- MTC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 56 บาท ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไร 1Q25 ของ MTC ที่คาดยังเติบโตแข็งแกร่งและโดดเด่นกว่ากลุ่ม หนุนจากทั้งสินเชื่อที่เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่คณภาพสินทรัพย์ยังบริหารจัดการได้ดีต่อเนื่อง คาดกำไรปกติปี 2025 ที่ 7.1 พันลบ. +21% y-y นอกจากนี้ยังมี Upside จากกนง.ปรับลดดอกเบี้ยลงจาก 2% ในปัจจุบันในช่วงที่เหลือของปีนี้ ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรง 14% MTD เข้าใกล้แนวรับหลัก มีโอกาสที่จะเห็นราคาฟื้นตัวระยะสั้น
- BDMS (กสิกรไทย) 29.40 บาท เราชอบ BDMS ในฐานะเครือข่ายโรงพยาบาลที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศไทย โดยปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ -1SD ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนักและเพียงสามครั้งตั้งแต่ปี 2553 เมื่อมองไปข้างหน้า เราคาดว่า BDMS จะรักษาโมเมนตัมการเติบโตที่แข็งแกร่งได้จนถึงปี 2025 โดยเฉพาะในไตรมาส 1 ปี 2568 ซึ่งรายได้มีแนวโน้มจะเกินเป้าหมายของฝ่ายบริหารที่ 7-8% สำหรับครึ่งแรกของปี 2568 จากการประเมินของเรา BDMS มีแนวโน้มเติบโตด้านรายได้อย่างน้อย 8% ในสองเดือนแรกของปี 2568 ทำให้เป็นหนึ่งในสองโรงพยาบาลจาก PR9 ที่แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 1ปี 2568
- BBIK ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 47.50 บาท คาดรายได้ปีนี้เติบโตแกร่งราว 20-30% ตามอุตสาหกรรม Digital transformation ที่ขยายตัวดี ผสานธุรกิจ AI, cloud, virtual bank , data center ที่ยังเป็นปัจจัยเสริม หนุน Backlog ยังอยู่ในระดับสูง ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดเพียง PE2025 ที่ 15.7 เท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ยการเติบโตยังแข็งแกร่งราว +30%y-y คิดเป็น PEG Ratio เพียง 0.5 เท่า เป็นระดับที่น่าทยอยสะสม