นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.)
เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าปรับตัวลง โดยรับแรงกดดันจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงกดดันหุ้นที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว เช่น กลุ่มอสังหาฯ กลุ่มประกัน และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเป็นต้น
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศจากทางฝั่งสหรัฐตัวเลขเงินเฟ้อ Core PCE ออกมาปรับตัวสูงขึ้นมาที่ 2.8% จากก่อนหน้าที่ 2.7% และภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐที่ทิศทางเศรษฐกิจสวนทางกับตัวเลขเงินเฟ้อ ทำให้เป็นปัจจัยที่กดดันต่อตลาดหุ้น และเช้านี้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดมาก็ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐ
ให้แนวต้าน 1,180 จุด แนวรับ 1,150-1,160 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (28 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,583.90 จุด ลดลง 715.80 จุด หรือ -1.69%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,580.94 จุด ลดลง 112.37 จุด หรือ -1.97% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,322.99 จุด ลดลง 481.04 จุด หรือ -2.70%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 36,440.18 จุด ร่วงลง 680.15 จุด หรือ -1.83% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,207.07 จุด ลดลง 219.53 จุด หรือ -0.93% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,343.34 จุด ลดลง 7.97 จุด หรือ -0.24%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 มี.ค. ปิดตลาดภาคเช้า) 1,181.93 จุด ลดลง 5.97 จุด (-0.50%) มูลค่าซื้อขายราว 14,094 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (28 มี.ค.) ไม่มีรายงานข้อมูล
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. (28 มี.ค.) ลดลง 56 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 69.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 มี.ค.) อยู่ที่ 2.83 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาท 34.01 จับตาผลกระทบภาคเศรษฐกิจเหตุแผ่นดินไหว-ติดตามมาตรการช่วยเหลือ
- รัฐบาลสั่ง 8 แบงก์รัฐ ออกมาตรการเร่งด่วน เยียวยาประชาชน ที่ได้รับผลกระทบเหตุแผ่นดินไหว ทั้ง พักหนี้ ลดดอกเบี้ย และ สินเชื่อฉุกเฉิน พร้อมเร่งจ่ายสินไหมให้ลูกค้าในพื้นที่ประสบภัย
- บอร์ด รฟท. เตรียมเสนอ ครม.ไฟเขียวหนุนค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย "สายสีแดง-แอร์พอร์ตเรลลิงก์" เริ่ม ก.ย.68 หนุนใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน
- "จุลพันธ์" ปักธงปั้นกฎหมาย entertainment com plex ให้จบในรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง หวังเป็นจุดเปลี่ยนใหม่ท่องเที่ยวไทย ดันเศรษฐกิจโตได้แบบไม่ต้องนั่งพะวง ส่งซิกปักหมุดโครงการบนที่ดินราชพัสดุ คาดตอกเสาเข็มได้ภายใน 3 ปี
- "สมาคมโรงแรมไทย" คาดแผ่นดินไหวกระทบธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวระยะสั้น ฉุดรายได้ 10-15% ช่วง 2 สัปดาห์ ชี้สงกรานต์เป็นบททดสอบครั้งใหญ่ด้านความปลอดภัย ย้ำต้องรับมือให้ได้ก่อนความเชื่อมั่นหาย ยอมรับเป้าดึงต่างชาติ 39-40 ล้านคน ยากมาก "นักเศรษฐศาสตร์" หวั่นกระทบเชื่อมั่นคอนโดฯ-ท่องเที่ยว
- อาฟเตอร์ช็อกอสังหาฯทุบตลาดคอนโดกรุงเทพฯ 4.5 แสนล้านชะงัก เลี่ยงโครงการ "ไฮไรส์" คอลลิเออร์ส ประเมินยอดขายสะดุด 1-2 เดือน "โลว์ไรส์-แนวราบ" รับอานิสงส์ แนะ "รัฐผู้ประกอบการ" เร่งแก้วิกฤติความเชื่อมั่นผู้บริโภคนักลงทุน "นายกสมาคมอาคารชุดไทย" ระบุวิกฤติสะท้อนมาตรฐานอาคารสูง คุชแมนฯ ชี้ "แผ่นดินไหว-ประกันภัยพิบัติ" ปัจจัยใหม่ที่คนซื้อคอนโดต้องคำนึง
- "ประเสริฐ" เรียก "ปภ.-กสทช.-โอเปอเรเตอร์" สางปัญหา'ระบบเตือนภัย'ประชาชน วางระบบ-ขั้นตอนเคร่งครัด ย้ำให้ประสานงานกันใกล้ชิด แจ้งเตือน "ภัยฉุกเฉิน" ให้ถึงประชาชนอย่างรวดเร็ว
*หุ้นเด่นวันนี้
- HMPRO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 13.20 บาท แม้ว่า SSSG ในช่วง 2 เดือนแรกปี 68 ติดลบเล็กน้อยจากกำลังซื้อค่อนข้างอ่อนแอ ก่อนได้อานิสงส์มาตรการแจกเงินหมื่นของภาครัฐทำให้ SSSG ช่วง 2 สัปดาห์แรกมี.ค.กระเตื้องขึ้นบ้าง ประกอบกับอานิสงส์จากการซ่อมแซมบ้านจากเหตุแผ่นดินไหวคาดช่วยหนุนยอดขายในช่วงที่เหลือของไตรมาส 1/68 ทำให้ผลกำไรเริ่มต้นปีได้ไม่แย่นัก ปัจจุบันเทรดที่ 2025E PE เพียง 15x และจ่ายปันผล 0.25 บ. (yield 3%) XD 22 เม.ย.
- DOHOME (คิงฟอร์ด) ราคาเป้าหมาย 8.38 บาท กลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้าง/ของแต่งบ้านมีโอกาสที่จะมี Demand สูงขึ้นจากการซ่อมแซมหลังเกิดภัยพิบัติธรรมชาติ ด้านผลงานปกติไตรมาส 1/68 คาดเห็นการฟื้นตัวได้หนุนด้วยลูกค้ากลุ่มรับเหมา/การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐฯ ด้าน DOHOME เอง วางเป้าในปี 68 SSSG +single mid digit%/ขยายสาขา(large store)อีก 3 สาขา(จาก 24 สาขา)/เน้นกลยุทธการขายสินค้า house brand ที่มี margin ดีกว่า โดยวางเป้าสัดส่วน house brand ปี 68 ที่ 21%
- OR (กสิกรไทย) ราคาเป้าหมาย 14.30 บาท มีมุมมองเชิงบวกต่อ trigger point ตั้งเป้าเชิงรุกเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจาก 34-35% มาที่ 39% ภายในสิ้นปี 68 แรงหนุนจากแคมเปญการตลาดเชิงรุกปรับตามความเหมาะสมตลอดทั้งปี คาดค่าใช้จ่ายการตลาดเพิ่มขึ้น 200-300 ล้านบาท แต่ถูกชดเชยจากมาตรการลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก 2-3 พันล้านบาทค่าใช้จ่ายส่วนเกินต่างๆ โดยในปี67 ลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลงได้ 2.5 พันล้านบาท นอกจากนี้ ปี 68 คาดตั้งสำรองสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักน้อยลง รวมถึง mobility ในส่วน commercial ยังได้ประโยชน์ท่องเที่ยวฟื้นส่งผลให้ยอดขายของน้ำมันเครื่องบิน (Jet fuel) โตได้ต่อเนื่องในปี 68